วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แนะนำหนังสือ: เพื่อนกันตลอดกาล (เฉกชนม์)


      มีหนังสือน้อยมากที่ผมอ่านและยังนึกถึงอยู่เสมอ หนึ่งในที่ว่านั้นที่คงพูดถึงไม่ได้ คือ "เพื่อนกันตลอดกาล" เขียนโดย เฉกชนม์ ชื่อจริงว่า ศิราวุธ ไพรีพินาศ โดยเริ่มต้นเขียนเมื่อปี พ.ศ. 2538 และมียอดการพิมพ์รวมทั้งหมดมากกว่า 20 ครั้งจาก 2 สำนักพิมพ์ ได้แก่ สำนักพิมพ์ดอกหญ้า และ สำนักพิมพ์เรือนปัญญา และถูกนำมาเป็นเค้าโครงของเรื่อง "บ้านสีขาวกับดาวดวงเดิม" ที่ฉายทางช่องไอทีวี (ปัจจุบันเป็นช่อง ไทยพีบีเอส) เมื่อ 12 ปีที่แล้ว

      นอกจากนี้ "เพื่อนกันตลอดกาล" เรื่องนี้ได้รับ "รางวัลหนังสือดีเด่นประเภทนวนิยาย จาก คณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2538" จนผู้แต่งเขียนภาคต่อของหนังสือเล่มนี้ชื่อ "ปีกฝันเปลี่ยนฟ้า" (ที่ผมมีอยู่ตอนนี้ พิมพ์ครั้งที่ 10 ตอนปีพ.ศ. 2544 ของสำนักพิมพ์เรือนปัญญา) ผมเชื่อว่ามีกลุ่มคอนักอ่านทั้งหลายที่มีช่วงอายุราวๆ 24 ปีขึ้นไป และชอบแนวซึ้งกับความรักและผูกพันเพื่อนมากๆ อาจจะเคยสัมผัสอรรถรสเรื่องนี้กันมาบ้าง

      "นวนิยายเรื่องนี้ใกล้เคียงกับชีวิตจริงของวัยรุ่นปัจจุบันนี้ ผมต้องเสียน้ำตาให้กับบางตอนของเรื่อง ซึ่งประทับใจมาก... ผมภาวนาอยากจะให้สังคมของคนรุ่นใหม่ มีความรักและความเห็นใจกันและกันเหมือนกับตัวละครในเรื่องนี้  -- ให้คำนิยม โดย รุจน์ รณภพ"

      จากคำนิยมข้างต้น นับว่าสอดคล้องกับเจตนาของผู้แต่งพอดีด้วย เนื่องจากเฉกชนม์ในขณะที่เขียน ผู้เขียนได้มีความรู้สึกรักและผูกพันกับตัวละครทุกตัว และใส่ชีวิต ความรู้สึกและจิตใจให้กับทุกชีวิตในเรื่อง ซึ่งตัวละครนี้มีทั้งหมด 5 คน ได้แก่ วุธ อ๊อด ตั้ม ต่าย และทอย สำหรับผมถือว่าตัวละครในเรืองนี้เป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก แต่ละคนจะมีบุคลิกและนิสัยพื้นฐานครอบครั้วแตกต่างกันชัดเจน

       วุธ หนึ่งในสมาชิกเพื่อนกันที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียน โดยแนวการเขียนเป็นกลอนเชิงปรัชญา, อ๊อด ศิลปินผู้ชอบวาดภาพสีน้ำ(สไตล์เพียวอาร์ต) , ต่าย เป็นนางแบบแต่ทำอาหารเก่ง ตอนหลังเลยได้เป็นแม่ครัวจริงๆ , ตั้ม หนุ่มคณะนิติศาสตร์ เล่นกีต้าร์เก่ง ดูภายนอกเหมือนไม่จริงจังกับอะไร แต่จริงๆแล้วเป็นคนรักและแคร์เพื่อนมากๆ หลายครั้งที่อ่านแล้วแอบกรี๊ดให้กับความเสียสละของนายคนนี้ที่มีต่อน้องทอย เด็กกำพร้าที่พวกเขารับอุปการะไว้

       ข้อความบางส่วนของตัวละครจากในเรื่องนี้

วุธ: 
"ทุกคนล้วนแต่มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้นแหละตั้ม มันขึ้นอยู่กับว่า 
ใครจะเข้าใจและมีสติพอที่จะจัดการมันได้มากน้อยแค่ไหน"

อ๊อด:
"เวลาน่ะ ไม่สำคัญหรอกสำหรับมิตรภาพ
เราเชื่อว่านายเป็นคนดี เป็นเพื่อนที่ดี
เพื่อนที่ดีๆที่รู้ใจน่ะมันหาได้ไม่ง่ายหรอก"

ตั้ม
"เราจะทำให้ต่ายเชื่อและรู้ว่าเราคือเพื่อน
และเราไม่ใช่ประเภทเดียวกับคนรวยที่ต่ายเกลียด...เราเป็นเพื่อนกันแล้วนี่
เพื่อนย่อมเข้าใจเพื่อน จริงมั้ย"

ต่าย:
"เราไม่เคยผูกมัดกันไว้ได้ด้วยสิ่งใด
แต่เราผูกพันกันด้วยใจ ด้วยความเป็นเพื่อน
ถ้าคนอื่นไม่ต้องการเรามันก็คงจะไม่แปลกอะไร
แต่ถ้าแม้แต่ตัวเราเองยังไม่ต้องการตัวเอง
แล้วเราจะอยู่ได้อย่างไรล่ะวุธ"

       และเนื้อเรื่องบางส่วนจากปกหลังเล่มนี้

"...เพียงแค่ตั้มขึ้นอินโทรกีตาร์ ก็ทำให้พวกเรานั้งเงียบเหมือนถูกสะกด...

เราต่างกันเหลือเกิน...แต่หนทางที่เดินทำให้เราพบกัน...
เราต่างมีความใฝ่ฝัน...หนทางเส้นนั้นมีฝันอันยาวไกล...
แล้วเกิดเป็นเป็นความใกล้ชิด...กลายเป็นความผูกพัน...
ผ่านพ้นคืนและวัน...เราต่างเติมความหมาย...
จากวันนั้น...บนหนทางยาวไกล...
เรานั้นรวมจิตใจ...เติมฝันให้แก่กัน...
วันผ่านมาเนิ่นนาน...ผ่านมาถึงกาล...
ทำให้เราจากกัน...เราจะเก็บความสัมพันธ์...เก็บไว้นานเท่านาน...
เพื่อนกันตลอดกาล

...เมื่อเนื้อเพลงท่อนสุดท้ายจบลงพร้อมกับเสียงกีตาร์
พวกเรารู้สึกได้เลยว่ามันเพลงของพวกเราจริงๆ
และเป็นเพลงที่ไพเราะที่สุดที่เราเคยฟังมา..."

        หากใครยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้และอยากสัมผัสความรู้สึกผูกพัน ความรัก จากพ้องเพื่อน ผ่านตัวอักษรล่ะก็ เรื่องนี้จะทำให้คุณไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

ข้อมูลบางส่วน อ้างอิงจาก Blog ของคุณไกลนั้น (ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย)

1 ความคิดเห็น: