เส้นสมมุติของการแบ่งประเทศทำให้คู่รักหลายคู่ต้องแยกกันอยู่คนละแผ่นดิน
เจอหน้ากันเฉพาะเมื่อโอกาสอำนวย บางคู่แม้จะอยู่ด้วยกัน ก็จำต้องแยกกันเป็นระยะๆ
ฝรั่งจำนวนมากที่ใช้วีซ่านักท่องเที่ยวมารักกับผู้หญิงไทย
ต้องเดินทางออกนอกประเทศทุกสามเดือนหกเดือน นั่งรถบัสข้ามด่านไปมาเลเซีย พม่า ลาว
หรือเขมร แล้วกลับเข้ามาใหม่ ปีแล้วปีเล่า
ราคาของการแต่งงานกับชาวต่างชาติ!
คู่รักชาวไทยกับต่างชาติหลายคู่ที่ยอมแพ้ต่อกติกาของเส้นสมมุตินี้
บางคู่ไม่อาจทนขั้นตอนกีดกันรักของกฎหมาย ค่าวีซ่าที่แพงเกินเหตุ
และความลำบากอย่างนี้ ก็เลิกรากันไป
ส่วนคู่รักเหนือเส้นสมมุติที่ยังเชื่อว่าเส้นรอบวงของหัวใจสำคัญกว่าเส้นสมมุติของการแบ่งประเทศ
แต่สู้กับกติกาไม่ไหว ก็ต้องแยกกันอยู่
เดินทางข้ามประเทศไปมาระหว่างสองบ้านเท่าที่โอกาสอำนวยเท่านั้น
ถ้าอยู่ไม่ไกลกันนักและพอมีเงิน ก็อาจบินไปหากันตอนเย็นวันศุกร์
กลับไปตอนคืนวันอาทิตย์
ราคาของการต่อสู้เพื่อรักษาความรัก!
คำถามคือ มันคุ้มหรือไม่?
-- 1 --
สตีฟ - คาร์เมน
ในปี ค.ศ. 1993
สตีฟ สมิธ หนุ่มชาวอังกฤษพบรักกับ คาร์เมน รีซ-เปเรซ
หญิงสาวชาวฝรั่งเศสซึ่งไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ทั้งสองอายุราวยี่สิบเศษ
และตกหลุมรักกัน
สิ่งที่เรียกว่าชะตาชีวิตทำให้ปีต่อมาคาร์เมนกลับฝรั่งเศส
ทั้งคู่ไม่ได้พบกันอีก
หกปีต่อมา
สตีฟเขียนจดหมายถึงคาร์เมน ถามเธอว่าเธอยังอยากสานต่อความสัมพันธ์กับเขาหรือไม่
แม่ของคาร์เมนวางจดหมายฉบับนั้นเหนือเตาผิง มันหล่นลงไปในซอกหลังเตาผิงและคาอยู่อย่างนั้นอีกสิบปี
จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อพวกเขาตกแต่งบ้านใหม่ ต้องรื้อเตาผิงนั้นออก
จึงพบจดหมายฉบับนั้น
ผ่านไปสิบหกปี
คาร์เมนยังไม่แต่งงาน เธอยังไม่ลืมรักแรกนั้น สตีฟก็เช่นกัน
สิบหกปีผ่านไปหลังจากพบรักครั้งแรก
คู่รักทั้งสองในวัยสี่สิบกว่าหวนคืนสู่อ้อมอกกันอีกครั้ง
ถ้าคิดว่าการรอคอยรักถึงสิบหกปียาวนานมาก
ลองดูรายต่อไป!
-- 2 --
บอริส - อันนา
ย้อนหลังไปในปี ค.ศ. 1946
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง อันนา คอซลอฟ เข้าพิธีแต่งงานกับบอริส
สามวันต่อมา เขาถูกส่งไปร่วมกองทัพแดง เธอไม่ได้พบหน้าสามีของเธออีกเลย
ครอบครัวของอันนาถูกเนรเทศไปที่ไซบีเรีย
เนื่องจากพ่อของเธอไม่เห็นด้วยกับนโยบายเกษตรกรรมของสตาลิน อันนาไม่อยากไป
แต่ก็ไม่มีทางเลือก
รู้ว่าไม่มีอะไรจะหวนกลับไปสู่จุดเดิมอีกแล้ว
แม่ของอันนาเผาจดหมายของบอริสทั้งหมด รวมทั้งรูปถ่ายแต่งงานของทั้งสอง
เพื่อให้เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอถูกบังคับให้แต่งงานใหม่
เวลาผ่านไปหลายสิบปี
หลังจากสามีคนใหม่ของเธอตายและสาธารณรัฐโซเวียตรัสเซียล่มสลาย
อันนากลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านเดิม
วันหนึ่งอันนาสวนทางกับชายสูงอายุคนหนึ่งที่กำลังลงจากรถคันหนึ่ง
เธอจำได้ทันที ชายผู้นั้นก็คือบอริส
ทั้งสองตื่นเต้นที่ได้พบกันอีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ
บอริสในวัยแปดสิบกว่าเล่าว่า เมื่อเขากลับบ้านหลังจากการรบ เขาไม่พบเธอ
และไม่สามารถติดต่อเธอได้อีก เพราะไม่มีร่องรอยใด ๆ
หลงเหลืออยู่พอที่จะทำให้เขาตามหาเธอได้ เขาไม่มีทางเลือกต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่
เขาแต่งงานใหม่
จนกระทั่งภรรยาใหม่ของเขาเสียชีวิต เขากลับบ้านเดิมมาเยี่ยมหลุมศพของพ่อแม่
และพบภรรยาที่ใช้ชีวิตร่วมกันเพียงสามวัน
หกสิบปีหลังจากการพลัดพรากจากกัน
ทั้งสองก็ครองรักกันในที่สุด
บางทีความรักที่แท้จริงมีสีสันกว่านิยาย!
-- 3 --
ฟิล - โจแอน
ย้อนเวลากลับไปอีกในปี ค.ศ. 1940
สงครามโลกครั้งที่สองเพิ่งเริ่มไม่นาน ชายหนุ่มชาวนิวซีแลนด์คนหนึ่งชื่อ ฟิล โอ’นีล
อาสาไปรบ
ก่อนเดินทางเขาซื้อแหวนวงหนึ่ง
เขาอยากบอกรักคนที่เขารักและขอเธอแต่งงาน เธอชื่อ โจแอน ดีน
ทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่เป็นนักเรียน
แหวนวงนั้นไม่ได้สวมบนนิ้วนางของหญิงสาวที่รัก
เพราะพ่อของเขาไม่อนุญาต เช่นกัน โจแอนก็ไม่ได้รับอนุญาตจากพ่อแม่ของเธอให้พบเขา
เพราะความเชื่อทางศาสนาไม่ตรงกัน เธอไม่อาจขัดใจพ่อแม่ได้
ฟิลขว้างแหวนวงนั้นลงบนถนนเข้าบ้าน
มันถูกรถทับจนบุบบี้ แม่ของฟิลเก็บแหวนวงนั้นแล้วมอบให้โจแอนหลังจากเขาเดินทางไปรบ
เธอเก็บมันไว้กับตัวตลอดมา
ฟิลถูกส่งไปรบกับพวกเยอรมันที่กรีซ
ในการรบครั้งหนึ่งเขาถูกจับเป็นเชลย และกลายเป็นเชลยศึกจนกระทั่งสงครามสงบ
หลังสงครามยุติ
เขาเดินทางกลับบ้านเกิด แต่ไม่ได้พบเธออีกเลย ต่างคนต่างมีครอบครัวของตน
หลังจากคู่ของทั้งสองตาย ทั้งสองจึงได้พบกันอีกครั้ง
เวลาผ่านไปเจ็ดสิบปี
เมื่อกำแพงขวางรักทลายลง ทั้งสองก็แต่งงานกัน
กำแพงเบอร์ลินถือกำเนิดในต้ นสงครามเย็น
หลังจากประเทศเยอรมนีถูกแบ่ งเป็นสองซีก ซีกหนึ่งปกครองด้วยระบอบประ ชาธิปไตย อีกซีกหนึ่งปกครองด้วยระบอบ คอมมิวนิสต์
กำแพงนี้เยอรมนีตะวันออกสร้ างขึ้นในปี 1961 แบ่งกรุงเบอร์ลินออกเป็นสอง ซีกเช่นกัน มีหอคอย ขวาก
รั้วลวดหนาม และปืน กีดกั้นชาวเยอรมันตะวันออกท ี่ต้องการออกไปสู่อีกฟากฝั่ งเพื่อไปหาคนรัก มีความพยายามหนีข้ามทุกวิธในบรรดาหลายพันคนที่พยายามหนี
ถูกฆ่าตายไปราวสองร้อยคน
กำแพงเบอร์ลินขวางกั้นความร ักของคนหลายคู่หลายครอบครัว จนกระทั่งปี 1990 มันก็ถูกทำลายลงพร้อมระบอบค อมมิวนิสต์ในรัสเซีย
เกือบสามสิบปีให้หลัง คู่รักจำนวนมากสวมกอดกันอีก ครั้ง
กำแพงเบอร์ลินขวางกั้นความร
-- 4 --
สงครามเกาหลีอุบัติขึ้นในช่ วงปี
ค.ศ. 1950-1953
ที่คาบสมุทรเกาหลี หลังการหั่นประเทศเกาหลีออก เป็นสองส่วนเช่นเดียวกับเยอ รมนี
แม้สงครามยุติ แต่สงครามเย็นยังคงดำเนินต่ อไป การสื่อสารและการคมนาคมระหว ่างเกาหลีเหนือกับใต้ถูกตัด ขาดโดยสิ้นเชิง
‘เส้นสมมุติ’ ถูกเพิ่มทับด้วยรั้วลวดหนาม และกระสุนปืน
ครอบครัวและคนรักกันหลายหมื ่นหลายแสนครอบครัวต้องพลัดพ รากจากกัน
การเจรจากันระหว่างสองประเท ศเริ่มเมื่อปี
ค.ศ. 2000 ทำให้เริ่มเห็นแสงสว่างแห่ง รักที่ปลายอุโมงค์ แต่หลายคู่ก็ยังไม่ได้เจอกั น
ทั้งโดยกำแพงการเมืองและการ รอคอยจนตายจากกัน
สงครามโลกทั้งสองครั้ง, สงครามเวียดนาม, สงครามอิรัก, สงครามโคโซโว, สงครามอัฟกานิสถาน ฯลฯ ก็ทำให้คู่รักจำนวนหลายล้าน คู่แยกจากกัน ตั้งแต่เหล่าทหารที่ปฏิบัติ ภารกิจสงคราม
ไปจนถึงชาวบ้านที่ถูกพิษสงค รามทำร้าย ครอบครัวแตกสลาย คนรักถูกแยกจากกัน
ผู้ที่โชคดีได้กลับสู่อ้อมอ กกันและกัน ผู้ไร้โชคก็จากกันตลอดกาลอย ่างขมขื่น
สงครามมีมากครั้งเหลือเกิน และกฎเกณฑ์มีมากเช่นกัน ดูเหมือนกำแพงขวางรักไม่มีว ันสิ้นสุด
แม้ในโลกเสรีนิยม ก็ยังมีอุปสรรคใหม่ ๆ ที่ขัดขวางความรัก ตั้งแต่ปัญหาเศรษฐกิจ
ประเพณี ค่านิยม ความเชื่อ ไปจนถึงศาสนา
เรื่องนี้กำลังบอกอะไรเราอยู่
การเจรจากันระหว่างสองประเท
สงครามโลกทั้งสองครั้ง, สงครามเวียดนาม, สงครามอิรัก, สงครามโคโซโว, สงครามอัฟกานิสถาน ฯลฯ ก็ทำให้คู่รักจำนวนหลายล้าน
สงครามมีมากครั้งเหลือเกิน และกฎเกณฑ์มีมากเช่นกัน ดูเหมือนกำแพงขวางรักไม่มีว
เรื่องนี้กำลังบอกอะไรเราอยู่
ความรักของคู่รักในชีวิตจริ
คนที่ผ่านความยุ่งยากวุ่นวา
เป็นเรื่องแปลกแต่จริง อะไรก็ตามไม่ว่ามีค่าสูงเพี
หลายคู่พบรักกันง่าย ๆ เจอหน้ากันเดือนสองเดือนก็แ
ความรักเกิดขึ้นได้ง่าย แต่รักษายาก ความรักก็เหมือนเครื่องยนต์
บางทีก่อนจะเลิกรากับใคร มองให้ถ้วนถี่ทุกด้านทุกมุม
หากเหตุผลที่อยากเลิกคือ “เพราะไม่มีความสุข” ลองถามตัวเองก่อนว่าไม่มีคว
ถ้ายังตอบไม่ได้ ถึงแต่งงานกับใครอีกยี่สิบค
ความรักและการใช้ชีวิตคู่ไม
การประสบความสำเร็จในชีวิตค
บางทีการเห็นตัวอย่างของคู่
Cr. วินทร์ เลียววาริณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น