วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ข้อคิดจากเรื่องเล่า: เด็กชายกับการใส่ใจ

     แดเนียลมาเรียนหนังสือที่ประเทศอังกฤษเพียงลำพัง เขาเช่าบ้านอยู่คนเดียว เนื่องจากไม่มีญาติพี่น้องอยู่ใกล้ เขาจึงผูกไมตรีกับครอบครัวหนึ่ง ซึ่งอยู่บ้านติดกันจนสนิทสนม

     ครอบครัวนี้มักเชิญเขาไปดื่มน้ำชาตอนบ่ายด้วยเสมอ บางครั้งยังรั้งตัวเขาไว้รับประทานอาหารค่ำอีกด้วย คุณผู้หญิงของบ้านเป็นคนมีน้ำใจดี มักมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มามอบให้แดเนียลอยู่เสมอ และทุกครั้งเด็กชายตัวเล็กๆ ซึ่งเป็นบุตรชาย จะเป็นผู้นำของขวัญมาให้

     ทว่า ทุกครั้งที่แดเนียลได้รับของขวัญ เขาไม่เคยกล่าวถ้อยคำแสดงการขอบใจเด็กชายเลย แม้แต่ครั้งเดียว

     อยู่มาวันหนึ่ง เด็กชายไม่ได้กดกริ่งที่หน้าประตู เขาเดินพรวดพราดเข้ามาในห้องหนังสือของแดเนียล แล้วโยนของขวัญลงบนโต๊ะเสียงดังตุบ! จากนั้นก็พูดห้วนๆ ว่า "แม่ให้เอามาให้"

     แดเนียลซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่ถึงกับสะดุ้งตกใจ เขาไม่เคยเห็นเด็กน้อยผู้นี้ แสดงกิริยาหยาบคายเช่นนี้มาก่อน แล้วยังทำเสียงดังรบกวนการอ่านหนังสือของตนอีกด้วย

     ในฐานะนักศึกษาปริญญาโทผู้มีความรู้สูง แดเนียลข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้ แล้วเอ่ยกับเด็กชายอย่างใจเย็น

     "หนุ่มน้อย เวลานำของขวัญมามอบให้ผู้อื่น เธอไม่ควรแสดงกิริยาเช่นนี้ เอาอย่างนี้ เธอมานั่งที่เก้าอี้ฉัน ฉันจะสาธิตให้เธอดู เธอต้องจำไว้นะ ว่าฉันทำอย่างไรบ้าง"

     เมื่อเด็กชายนั่งเรียบร้อยแล้ว แดเนียลก็เดินออกไปข้างนอกแล้วปิดประตู

     อันดับแรก เขาเคาะประตูและรอจนกว่าเด็กชายบอกว่า "เชิญเข้ามาได้" จึงค่อยๆ เปิดประตูเดินเข้ามาในห้องหนังสือ ยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าแล้วเอ่ยกับเด็กชายว่า

     "คุณครับ แม่ของผมให้ผมเป็นตัวแทนมาเรียนถามว่า คุณสบายดีหรือไม่ และหวังว่าคุณจะรับของขวัญเล็กๆ น้อยๆ นี้ไว้"

     เด็กชายฟังจบก็ตอบอย่างมีมารยาท "ขอบใจเธอมากนะหนูน้อย กลับไปเรียนคุณแม่แทนฉันด้วยว่า ขอบคุณมาก และได้โปรดรับเงินสองชิลลิ่งนี้ไว้เป็นรางวัลของเธอ"

     แดเนียลฟังจบก็ถึงกับชะงัก อึ้งไปครู่ใหญ่ จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ นับจากวันนั้นเป็นต้นมา เขาก็ไม่ลืมกล่าวคำขอบคุณเด็กชายอีกเลย อีกทั้งยังให้เงินรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ทุกครั้งที่เขานำของขวัญมาให้อีกด้วย


เรื่องนี้กำลังบอกอะไรเราอยู่

     ท่าทีในการดำรงชีวิตที่ดีงาม คือพื้นฐานของความสำเร็จ ทว่าในหลายๆครั้ง คุณมักคำนึงถึงสถานการณ์ในภาพรวม และมองข้ามรายละเอียดปลีกย่อยไป

     คนที่ใส่ใจรายละเอียดปลีกย่อย ย่อมเดินไปได้ไกลกว่าผู้อื่นเสมอ

     คนที่มีเพื่อนฝูงมาก มนุษยสัมพันธ์ดี คงไม่ได้มอบมิตรไมตรีให้แก่ผู้อื่นเพียงแค่คน หรือสองคนเท่านั้น บุคคลประเภทนี้มีบุคลิกลักษณะเฉพาะตัวคือ จะหยิบยื่นน้ำใจไมตรีให้แก่คนทุกคน โอบอ้อมอารี เอาใจใส่ และปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างมีมารยาทเสมอ ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม

     ดังนั้น คุณจึงควรฝึกฝนตนเองให้เป็นคนที่รู้จักดูแลเอาใจใส่ผู้อื่นมากขึ้น ทำให้ผู้คนรอบข้างยินดีต้อนรับคุณมากยิ่งขึ้น และทำให้ตัวเองเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์อันยอดเยี่ยม

     ในการคบค้าสมาคมกับผู้อื่น ทั้งสถานการณ์โดยรวมและรายละเอียดปลีกย่อย ล้วนสำคัญอย่างมาก ส่วนใหญ่ผลเสียอันรุนแรงที่เกิดขึ้นมาในภายหลัง มักมีสาเหตุมาจากการมองข้ามเรื่องเล็กๆน้อยๆ

     ดังนั้น หากคิดจะใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุข ก็ต้องตั้งใจใช้ชีวิตในแต่ละวันให้ดีที่สุด

Cr. สุขได้ถ้าวางเป็น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น