วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

ข้อคิดจากเรื่องเล่า: ผู้พิชิตคลื่นพยศ


     เจย์ มอริอาร์ตี้ ตัดสินใจเริ่มฝึกเล่นโต้คลื่นครั้งแรกสมัยที่เขามีอายุแค่ 8 ขวบ  ตอนนั้นเขาพยายามแหวกว่ายในทะเลอยู่หลายครั้งแต่กลับถูกกระแสคลื่นลูกแล้วลูกเล่าโต้กลับ เพื่อนของเขาจึงตะโกนขึ้นว่า "ไม่มีใครยืนได้ตั้งแต่ครั้งแรกหรอกเพื่อน" แต่เจย์ก็ยังคงพยายามว่ายฝ่าน้ำทะเล เพื่อไปยืนบนคลื่นตามความปรารถนาของตัวเอง

     7 ปีต่อมาหลังจากนั้น เจย์กลายเป็นหนุ่มเต็มตัว เขาปรารถนาที่จะพิชิตคลื่นยักษ์มาเวอริคส์ (Mavericks) จึงคะเนได้ว่าความสามารถของตัวเองคงยังมีไม่มากพอ เขาจึงไปขอร้องฟรอสตี้ นักโต้คลื่นผู้เก่งกาจที่สุดในย่านนั้นให้ช่วยฝึกสอนเขา โดยสอนให้เจย์รู้จัก "เสาหลัก 4 ประการของชีวิต" ได้แก่

1. กายภาพ

     ต้องกินอาหารที่ดี ร่างกายจึงจะแข็งแรงพอ ฝึกร่างกายอย่างสม่ำเสมอจนมีกำลังมากพอที่จะรับปริมาณน้ำมหาศาล ซึ่งพร้อมที่จะถาโถมร่างกายของเราจมดิ่งลงสู่ห้วงทะเล ต้องฝึกหายใจใต้น้ำให้นานเกินกว่า 4 นาที เพราะในยามที่ถูกคลื่นซัดใต้ท้องทะเลลึกจะสามารถะอดพ้นจากความตายได้

2. ความคิด

     ให้เขียนเรียงความของตัวเอง เพื่อฝึกพลังแห่งการสังเกตด้วยการเฝ้ามอง สังเกตธรรมชาติรอบกาย และบันทึกสิ่งที่ตัวเองสังเกตเห็น

3. อารมณ์

      มนุษย์มีอารมณ์ที่ละเอียดอ่อนมาก แต่อารมณ์ทั้งหลายล้วนแตกต่างกัน เช่น ความกลัวกับความตกใจไม่ใช่สิ่งเดียวกัน พยายามแยกมันให้ออก และต้องรู้จักควบคุมอารมณ์อ่อนไหวให้ได้

4. จิตวิญญาณ

      ต้องรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับสิ่งที่กำลังทำและต้องรู้สึกว่าตัวเองกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของคลื่น

   
      หลังจากเจย์ฝึกซ้อมยาวนานกว่า 12 สัปดาห์ ในที่สุดเขาก็พิชิตคลื่นยักษ์มาเวอริคส์ได้สำเร็จ และกลายเป็นนักโต้คลื่นชื่อดังด้วยวัยเพียง 17 ปี

      ซึ่งที่มาและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจนช่วงที่เจย์ประสบความสำเร็จดังกล่าว ได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง "ผู้พิชิตคลื่นพยศ" (Chasing Mavericks) อีกด้วย


เรื่องนี้กำลังบอกอะไรเราอยู่?

      ชีวิตของคนเราก็คล้ายๆกับการโต้คลื่น บ่อยครั้งที่พยายามฝ่าฟันอุปสรรค แต่ก็ถูกอุปสรรคโต้กลับมา ถ้าทนไม่ไหวก็ต้องตัดตัดใจเลิกรา แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณอยากเอาชนะอุปสรรคนั้นจริงๆ ก็จำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะฝึกฝนและควบคุมร่างกาย ความคิด อารมณ์ และจิตวิญญาณ ให้แกร่งขึ้น จนกระทั่งคุณพร้อมที่จะออกไปโต้อุปสรรคเหล่านั้นได้อย่างสง่างาม

      ช่วงสมัยเด็กๆ คุณอาจยังมีประสบการณ์ไม่มากพอ แยกความแตกต่างระหว่าง สิ่งที่เป็นไปได้ กับ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ออก แต่ในเวลานั้นคุณพร้อมที่จะทำมันสุดกำลังและไม่คิดจะเสียใจถ้าสิ่งที่ปรารถนาไว้อาจไม่เป็นจริง ในขณะที่คุณก้าวข้ามเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ เข้าใจโลกกว้างขึ้น จึงประเมินแยกแยะสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้ว่าเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ และคนส่วนใหญ่มักเลือกไม่ทำหากสิ่งนั้นเสี่ยงมากเกินไป

       ดังนั้น ถ้าคุณยังอ่อนประสบการณ์ และหวาดกลัวคลื่นลูกใหญ่เบื้องหน้า แล้วมันยังไม่จำเป็นต้องรีบร้อนกระโจนเข้าไปโต้ในตอนนั้น แต่จงฝึกฝนร่างกายและจิตใจของตัวเองให้เข้มแข็ง สั่งสมประสบการณ์เพิ่มอีกนิด ก็ยังไม่อาจสายเกินไป และต่อมาเมื่อคุณพร้อมทุกอย่างแล้ว ในจังหวะที่เกลียวคลื่นงดงามปรากฎขึ้นเบื้องหน้าพอดี ก็อย่ารอช้า รวบรวมความกล้าหาญและพละกำลังของคุณผลักดันร่างกายให้ทรงตัวยืนขึ้น แล่นฝ่าคลื่นลูกนั้นได้อย่างงามสง่าที่สุด

Cr. เด็กน้อยฤดูฝน หนุ่มสาวฤดูฝัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น