วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ข้อคิดจากเรื่องเล่า: ความจนกับความรวย


     พ่อของแจ็คเป็นพ่อค้า ทำการค้ามานานปีจนฐานะร่ำรวย ซื้อบ้านพักตากอากาศไว้หลังหนึ่งในแถบชนบท

      พ่ออยากให้แจ็ครู้ว่า การทำการค้านำมาซึ่งความสุขสบายในชีวิต และเมื่อแจ็คโตขึ้นก็จะต้องรับช่วงกิจการต่อจากพ่อ ด้วยเหตุนี้จึงถือโอกาสในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน พาเขาไปพักผ่อนยังบ้านตากอากาศแห่งนั้น

     พ่อของแจ็คคิดว่า สภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนยากจนในชนบท จะยิ่งทำให้แจ็คเห็นคุณค่าของความสุขสบายในชีวิตที่มีอยู่ในเวลานี้ และสนใจที่จะทำงานหาเงินทองมากขึ้น

     หลังจากเดินทางมาถึงบ้านพักตากอากาศแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้น พ่อก็บอกให้แจ็คไปเที่ยวเล่นในหมู่บ้านจนค่ำๆ ค่อยกลับมา พอสองทุ่มแจ็คก็กลับมา สีหน้าท่าทางของเขาดูเบิกบานเป็นพิเศษ

     พ่อยิ้มแล้วถามแจ็คว่า "วันนี้ลูกเป็นอย่างไรบ้าง"

     แจ็คตอบว่า "สนุกมากครับ"

     "ถ้าอย่างนั้น ลูกคงรู้แล้วว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของคนยากจนเป็นอย่างไรใช่ไหม"

     "ใช่ครับ ผมรู้แล้ว"

     "ถ้าอย่างนั้น ลูกช่วยบอกให้พ่อฟังหน่อยได้ไหมว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของเรากับชาวบ้านแตกต่างกันอย่างไร"

     เมื่อได้ยินคำถามของพ่อ แจ็คก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยตอบช้าๆ

     "บ้านเรามีสุนัขแค่ตัวเดียว แต่บางบ้านที่นี่มีสุนัขตั้งสี่ตัว บ้านเรามีสระน้ำกลางสวน แต่หน้าประตูบ้านของพวกเขามีแม่น้ำไหลผ่าน ไหลไปถึงที่ไกลๆ

     พอตกค่ำ ในสวนบ้านเราเห็นโคมไฟไม่กี่ดวง แต่บนท้องฟ้าเหนือลานบ้านของพวกเขา เห็นดวงดาวนับพันนับหมื่นดวงเลยทีเลย

     นอกจากนี้ ลานบ้านของเราจอดรถยนต์ได้เพียงไม่กี่คัน แต่ลานบ้านของพวกเขา มีที่พอให้วัวอยู่ได้ตั้งหลายร้อยตัว ไว้โตขึ้นผมจะต้องใช้ชีวิตอย่างร่ำรวยเช่นพวกเขาอย่างแน่นอน"

     คำตอบของแจ็คทำให้พ่อถึงกับอึ้งไปพูดอะไรไม่ออก


เรื่องนี้กำลังบอกอะไรเราอยู่

     ในโลกของผู้ใหญ่ ความยากจนกับความร่ำรวยอาศัยเงินทองมาเป็นตัวแบ่งแยก ทว่าในสายตาอันบริสุทธิ์ของเด็กกลับไม่ได้เห็นเช่นนั้น โดยแก่นแท้แล้ว เงินทองไม่อาจบันดาลอะไรได้ทุกสิ่งทุกอย่าง คนยากจนและคนร่ำรวย ต่างก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้เหมือนๆ กัน เพียงแต่ต่างรูปแบบกันไปเท่านั้น คนรวยใช้เงินซื้อความสุข แต่คนจนเสพความสุขที่มีอยู่รอบตัวด้วยหัวใจ

     คนเราใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ย่อมหลีกไม่พ้นการถูกเปรียบเทียบ คนมองโลกในแง่ร้ายอาจรู้สึกว่า คนเปรียบคน ยิ่งเปรียบยิ่งโมโห ไม่ว่าเปรียบอย่างไรก็สู้ไม่ได้อยู่ดี ส่วนคนมองโลกในแง่ดีจะเห็นว่า เปรียบสูงสู้ไม่ได้ เปรียบต่ำย่อมดีกว่า และพอใจในความเป็นอยู่ของตนในทุกวันนี้อย่างที่สุดแล้ว

     ความจริงแล้ว การเปรียบเทียบหาได้มีความหมายอะไรอย่างแท้จริงไม่ เหมือนกับที่คนบางคนรู้สึกว่า การกินหูฉลามเป็นการเสพสุขอันยิ่งใหญ่ แต่บางคนกลับเห็นว่า กินก๋วยเตี๋ยวผัดยังจะมีรสชาติเสียกว่า แล้วท่านล่ะ คิดว่าความรู้สึกของใครถูกต้อง

     "อยากจะใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย ก่อนอื่นต้องหาสิ่งที่ตนชอบให้พบ โยนความโง่เขลาว่างเปล่าในใจทิ้งไปเสีย ทำความเข้าใจและซาบซึ้งถึงความสนุกสนานของสรรพสิ่งในโลกนี้ให้ลึกซึ้ง" -- แม็กซิม กอร์กี

Cr. สุขได้ถ้าวางเป็น

1 ความคิดเห็น: