นับตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว คนประสบความสำเร็จ ล้วนเป็นคนสันทัดในการใช้เวลา สิ่งที่มีค่ามากที่สุดของชีวิตคนเรา ก็คือ เวลา ถึงจุดที่ใช้เวลาหมด ก็คือชั่วขณะที่ชีวิตสิ้นสุดลง การใช้เวลาอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด การบุกเบิกทรัพยากรและใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็คือ เคล็ดลับสำคัญของผู้ประสบความสำเร็จ
วิธีเพิ่มเวลาอย่างแท้จริงและเป็นวิธีหนึ่งที่เป็นไปได้มากกว่าในทางปฏิบัติ ซึ่งช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดด้วยเวลาน้อยที่สุด ดังตัวอย่างรูปธรรมดังนี้
การต้มน้ำชงชานั้น ต้องทำงาน 4 อย่างคือ ล้างกาน้ำ ล้างถ้วยน้ำชา เตรียมใบชา และเทน้ำร้อนชงชา
จะทำงานทั้ง 4 อย่างให้ลุล่วง อาจทำตามลำดับขั้นตอนได้หลายแบบดังนี้
1. ล้างกาน้ำ เทน้ำเย็นใส่ ต้มบนเตา รอน้ำเดือด ค่อยล้างถ้วยชา เตรียมใบชา และเทน้ำร้อนชงชา
2. ล้างกาน้ำและถ้วยน้ำชา เตรียมใบชา เสร็จแล้ว ค่อยต้มน้ำร้อน ชงชาดื่ม
3. ล้างกาน้ำ แล้วต้มน้ำ ระหว่างต้มน้ำ ก็ล้างถ้วยชา เตรียมใบชา น้ำเดือดแล้วค่อยชงชาดื่ม
ถ้าทำงานตระเตรียม ล้างถ้วยน้ำชาและจัดใบชา ระหว่างต้มน้ำ รอน้ำเดือด ก็จะประหยัดเวลาได้มาก
วิธีที่ 3 ของตัวอย่างนี้ประหยัดเวลามากกว่าวิธีที่ 1 และวิธีที่ 2 กึ่งหนึ่ง ถ้าคุณทำงานการต่างๆด้วยวิธีนี้ ก็จะเสมือนหนึ่งชีวิตคุณยืนยาวมากขึ้น 1 เท่า คุณลองสังเกตเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับวิธีที่ 3 ดู จะพบว่าวิธีที่ 3 แตกต่างกับวิธีที่ 1 และวิธีที่ 2 ในสาระสำคัญ 2 ข้อคือ ข้อแรก ทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ข้อที่ 2 ยกเลิกเวลารอคอยทั้งหมด
เชื่อว่าทุกคนเคยมีประสบการณ์รอคอยคล้ายคลึงกันอยู่มาก และรู้ว่ารสชาติการรอคอยนั้นน่าหงุดหงิดแค่ไหน แต่ถ้าคุณรู้จักใช้เวลารอคอยให้เกิดประโยชน์ ก็ไม่เพียงประหยัดเวลาได้มาก ยังระงับหรือเบนอารมณ์หงุดหงิดที่เกิดขึ้นในขณะ "รอคอย" ได้ด้วย วิธีใช้ประโยชน์จากเวลารอคอยมีอยู่มาก ขอยกตัวอย่างประกอบการพิจารณาดังนี้
1. ขณะนั่งรอรถเมล์หรือรถไฟ อาจจะอ่านหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือท่องศัพท์บางคำ หรือคิดถึงงานและลำดับขั้นตอนการทำงานของวันนี้ วางแผนคร่าวๆไว้ก่อนและจำไว้ ซึ่งช่วยให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือช่วยให้ฉุกคิดถึงปัญหาบางอย่างได้
2. ขณะซื้อของเสร็จ คิดบัญชี ชำระเงิน ถ้าต้องเสียเวลาหีบห่อมาก คุณอาจฝากให้พนักงานขายช่วยดูแล แล้วไปทำงานบางอย่างก่อน ค่อยกลับมารับของหรือจะขนของกลับไปหีบห่อเองก็ได้ เพื่อประหยัดเวลา
3. เวลานัดพบคนอื่น เชื่อว่า ทุกคนเคยเจอคนประเภทชอบผิดนัดมาสาย ซึ่งทำให้คุณต้องรอ ช่วงเวลาที่รอจะสะท้อนว่าคุณใช้เวลาเป็นหรือไม่ คนไม่รู้จักใช้เวลา มักนั่งรอด้วยอาการหงุดหงิด ส่วนคนที่ใช้เวลาเป็น อาจใช้เวลานั่งรอ อ่านหนังสือ นิตยสาร ฯลฯ หาความรู้ไปพลางๆหรือไม่ก็ทำอะไรที่เกิดประโยชน์
ยังมีวิธีประหยัดเวลาอีกมาก ในชีวิตจริงนั้น ขอเพียงคุณรู้จักจัดเวลาและขยันใช้ประโยชน์จากมัน คุณจะพบอย่างกะทันหันว่าตัวเองมีเวลามากขึ้น
ที่สำคัญคือ คุณต้องปรับทัศนคติที่มีต่อเวลา ขอเพียงเป็นช่วงเวลาที่ช่วยให้มีพลังชีวิตอันเปี่ยมล้น ไม่ว่าช่วงเวลาทำงานหรือบันเทิง ล้วนไม่อาจถูกจัดว่าเป็นช่วงเวลาที่สูญเปล่า ช่วงเวลารอคอยต่างหาก คือ ช่วงเวลาที่สูญเปล่า เพราะในช่วงเวลาที่รอคอย คุณมักหวังว่าเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมดวันละ 24 ชั่วโมง เวลาบางช่วงนั้น คุณทำอะไรไม่ได้จริงๆได้แต่มองดูมันผ่านเลย ส่วนเวลาบางช่วง เช่น ช่วงเวลารอคอย ถ้าใช้ประโยชน์ได้ ก็จงใช้ให้เกิดประโยชน์เต็มที่ ยกเลิกเวลารอคอยและแสดงศักยภาพทุกอย่างในตัวออกมาให้หมด ทำหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน ซึ่งไม่ต่างกับช่วยให้ชีวิตยืนยาวขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น