ผู้ค้าอัญมณีชาวยิวผู้หนึ่ง มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของผู้คนจำนวนมาก แน่นอนว่า การที่เขามีชื่อเสียงขึ้นมาได้นั้น ย่อมต้องมีสาเหตุ ประการแรก เขามีอัญมณีในครอบครองจำนวนมาก ซึ่งล้วนเป็นอัญมณีมูลค่าสูง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ อัญมณีของเขามีคุณภาพยอดเยี่ยมเหนือใคร
วันหนึ่งมีชาวยิวสูงวัยหลายคนมาหาเขาเพื่อจะซื้อเพชร ผู้สูงวัยเหล่านี้เป็นศาสนิกผู้เลื่อมใสในศาสนา พวกเขาต้องการจะนำเพชรไปมอบแด่แรบไบที่มีตำแหน่งสูงสุด เพื่อใช้ประดับเสื้อคลุม สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
พ่อค้าอัญมณีอยากจะทำการค้ารายนี้ให้สำเร็จ ทว่า เขากลับบอกลูกค้าว่า เขามีความจำเป็นบางอย่างที่ต้องขอความร่วมมือจากลูกค้าทุกท่าน กล่าวคือ เขาไม่อาจเชิญลูกค้าผู้สูงวัยทั้งหลายเหล่านั้น เข้าไปชมเพชรในห้องด้านในได้ จำต้องขอให้ลูกค้ารออยู่ด้านนอกก่อน แล้วเขาจะเข้าไปนำเพชรออกมาให้ชม
เหล่าผู้สูงวัยต่างไม่เข้าใจว่า การจะชมเพชรนั้นมีอะไรต้องรอ ทว่า ก็ยอมทำตามคำขอด้วยการนั่งรออยู่ด้านนอก เวลาผ่านไปครู่หนึ่งพ่อค้าก็ยังไม่ยอมเข้าไปนำเพชรออกมา ลูกค้าบางคนเห็นว่า พ่อค้าอัญมณีคงเจตนาจะถ่วงเวลา รู้ว่าพวกตนรีบจึงคิดจะเล่นแง่เรียกราคาสูงๆ
เมื่อไม่อาจโอ้เอ้เสียเวลาต่อไปอีก พวกเขาจึงเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอให้แก่พ่อค้าอัญมณีว่า ยินดีจะเพิ่มราคาให้เป็นสองเท่า พ่อค้าอัญมณีได้ยินข้อเสนอนั้น ก็มีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่รับข้อเสนอดังกล่าว
บรรดาผู้สูงวัยคิดไปคิดมาแล้วจึงบอกว่า พวกตนยินดีจะเพิ่มเงินให้อีก แต่พ่อค้าก็ไม่ตกลง สุดท้ายเหล่าผู้สูงวัยจึงจากไปด้วยความหงุดหงิดโมโห เนื่องจากรอต่อไปไม่ไหว
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง พ่อค้าอัญมณีก็ไปพบผู้อาวุโสเหล่านั้นด้วยตัวเอง และนำเพชรที่พวกเขาต้องการมาวางเรียงให้ดูบนโต๊ะ ผู้สูงวัยต่างพออกพอใจเพชรเหล่านั้นมาก จึงขอซื้อเอาไว้ทั้งหมด และรับปากว่าจะจ่ายเงินให้ในราคาสูงที่สุด ตามที่ได้เอ่ยปากไปแล้ว
พ่อค้าอัญมณีกลับบอกว่า "ไม่ ผมขอรับเงินตามราคาจริงเท่านั้น"
บรรดาผู้สูงวัยต่างแปลกใจถามเขาว่า "ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เพราะเหตุใดตอนนั้น คุณถึงไม่ยอมนำเพชรออกมา"
พ่อค้ายิ้มอย่างขัดเขินและบอกว่า "ตอนพวกท่านไปที่ร้าน บิดาของผมกำลังหลับอยู่ และบิดาของผมก็เป็นผู้รักษากุญแจห้องเก็บอัญมณี ผมคิดว่า ผมไม่ควรรบกวนเวลาพักผ่อนของท่าน ท่านอายุมากแล้ว ตกใจตื่นง่าย ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าพวกท่านจะให้เงินผมมากเท่าใด ผมก็ไม่อาจนำอัญมณีออกมาให้ชมได้ในตอนนั้น"
ผู้สูงวัยทุกคนต่างรู้สึกปลาบปลื้มในความกตัญญูของเขา ทุกคนต่างบอกว่า พระผู้เป็นเจ้าจะต้องคุ้มครองเขาและครอบครัว
เรื่องนี้กำลังบอกอะไรเราอยู่?
หากไม่ปล่อยตัวให้ไหลไปตามกระแสน้ำ
ท่านจะได้รับการยอมรับนับถือจากผู้อื่น
"สมบัติทางใจเป็นสมบัติที่แท้จริง"
การเปรียบเทียบหรือแสวงหาในสิ่งที่ใครๆ ก็มีนั้น ไม่อาจทำให้เรามีความสุขได้ คนที่ยืนหยัดในหลักการของตนต่างหากที่จะได้รับความสุขอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับการเพิ่มพูนขึ้นของทรัพย์สิน ที่ไม่อาจทำให้ความประพฤติและคุณธรรมของเราดีงามขึ้นได้ เพราะในโลกใบนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่เงินทองซื้อไม่ได้
ในทางตรงข้าม ความประพฤติและคุณธรรมอันดีงามกลับเป็นหลักประกันได้ว่า เราจะได้รับความเคารพนับถือ และสิ่งนี้เงินทองก็ไม่อาจซื้อหามาได้ หากเรียนรู้ที่จะยืนหยัดในการใช้ชีวิตอย่างมีหลักการ ผู้อื่นก็ยิ่งจะเคารพท่าน และชีวิตของท่านจะเป็นชีวิตที่มีความหมายอย่างแท้จริง
Cr. สุขได้ถ้าวางเป็น - หนังสือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น