บทเพลงที่ไพเราะที่สุดสำหรับทุกคน เป็นคำหรือรูปแบบประโยคหนึ่งที่คนฟังรู้สึกแล้วมีความรู้สึกในด้านบวกแก่คนฟังเสมอ ซึ่งมีดังนี้
1. ชื่อ
การเรียกชื่อ เป็นการแสดงการรับรู้ถึงตัวบุคคล เมื่อใครก็ตามเรียกชื่อคุณก็ตาม คนที่ถูกเรียกชื่อหรือคุณจะรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า มีตัวตน มีความเป็นบุคคล ซึ่งทำให้เขามีความสุข ซึ่งชื่อที่เรียกนั้น ต้องเป็นชื่อที่คนฟังแล้วมีความสุข และเจ้าตัวชอบด้วย ไม่ควรเป็นชื่อเรียกที่เป็นฉายาประหลาดๆที่เพื่อนตั้งให้ หรือ ชื่อพ่อแม่
2. คำชม
ใครๆก็ชอบคำชมด้วยกันทั้งนั้น มันคือการแสดงความรู้สึกดีๆต่อผู้รับ ซึ่งทำให้ผู้รับคำชม รู้สึกดีต่อตนเอง มีค่า อย่างไรก็ตาม คำชมก็สามารถเป็นดาบสองคมได้ ถ้าใช้มากเกินไปจะดูเหมือนต้องการผลประโยชน์หรือดูประจบไม่จริงใจ
ตัวอย่างของการชมที่มีพลัง
- คำชมที่ดีต้องมีความจริงใจและมีความเจาะจง
- การชมในผลงานของคนๆนั้น จะยิ่งสร้างความอิ่มเอมใจ เพราะผลงานของคนๆหนึ่งคือรูปธรรมที่จับต้องได้ ซึ่งหมายถึงผลผลิตด้วย เช่น พ่อแม่จะดีใจมากถ้ามีคนมาชมลูกของตนว่าเป็นเด็กดีน่ารัก
- การชมผ่านคนอื่น จะได้ผลที่รุนแรงกว่าชมด้วยตนเอง เพราะการที่มีคนมาบอกเราว่ามีคนชม แสดงว่าคำชมนี้ต้องผ่านหูคนจำนวนมากขึ้นเป็นการชม 2 เด้ง
- การชมคนๆหนึ่งในที่สาธารณะเป็นการชมที่ทรงพลังมาก แต่ควรระวังไม่ให้คนอื่นรู้สึกต่ำต้อยด้วย
3. คำขอบคุณ
คำขอบคุณทำให้ผู้รับฟังรู้สึกมีคุณค่าและใครๆก็อยากมีคุณค่าทั้งนั้น การขอบคุณที่มีพลัง (จริงใจและเฉพาะเจาะจง) จะทำให้ผู้อื่นอยากที่จะช่วยเหลือเราอีก เพราะรู้สึกดีที่ผู้อื่นเห็นคุณค่า เช่น ถึงแม้ว่าต่อให้เจอบริการที่แย่จากบริกร ก็อาจจะทำให้บริกรรู้สึกอยากแก้ตัวใหม่อีกครั้งก็ได้
โดยสรุปสิ่งที่ควรปฏิบัติอยู่เสมอระหว่างผู้อื่น
- เรียก ชื่อ ผู้อื่นทุกครั้ง ทั้งช่วงเริ่มการทักทายและขณะสนทนา
- เอ่ย คำชม ให้กับคนที่คุณชื่นชอบในความสามารถหรือผลงาน ความดีมีน้ำใจ ทุกครั้ง
- และ กล่าว คำขอบคุณ ผู้อื่นทุกครั้งที่คอยมอบความช่วยเหลือคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
Cr. คู่มือบริหารใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น