การทำงานหนักไม่ใช่เพียงทำงานนานขึ้น หรือเพียงทำงานเร็ว หรือทำงานเดิมๆ ได้ปริมาณมากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลง แต่คุณต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างกิจกรรม ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล
กิจกรรม: ไปประชุม
ประสิทธิภาพ: ไปประชุมให้ตรงเวลา
ประสิทธิผล: ไม่ไปประชุมเพราะคุณมีสิ่งสำคัญกว่าที่จะต้องทำ
ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำงานหนักอย่างมีประสิทธิภาพ แต่คุณไม่ได้ทำสิ่งสำคัญที่คุณควรจะต้องทำ คุณต้องปรับปรุงประสิทธิผลของคุณล่ะที่นี้
1. อย่าซ้ำซาก
คุณมีงานประจำที่ต้องทำหรือไม่ คุณทำมันมานานเท่าไรแล้ว มันเริ่มขึ้นอย่างไร คุณทบทวนมันครั้งล่าสุดเมื่อใด การปล่อยให้ตนเองทำอะไรซ้ำๆจะะทำให้คุณเฉื่อยชาและเบื่องาน ลองเปลี่ยนงานประจำที่ทำอยู่ แจกจ่ายให้ผู้อื่นมีส่วนร่วม เมื่อคุณมีเวลาเพิ่มขึ้นจงหาโครงการที่น่าสนใจสักโครงการมาทำ เพื่อปรับปรุงประสิทธิผลของคุณเองและผลงานของสายงานของคุณ
2. ใช้ความคิดสร้างสรรค์
ความเปลี่ยนแปลงช่วยให้คุณมีความสนใจและแรงจูงใจอยู่เสมอ ลองทดสอบตัวคุณว่า ความเปลี่ยนแปลงในระดับใดและความรวดเร็วเท่าใดที่จะทำให้คุณรักษาความสนใจและความน่าสนใจในตัวงานได้อยู่สม่ำเสมอ การเพิ่มความเปลี่ยนแปลงในงานก็คือ การเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ในงานนั้นนั่นเอง คุณอาจไม่ถึงกับเป็นศิลปินแต่คุณมีความคิดสร้างสรรค์ซึ่งมีมากกว่าที่คุณคิด แต่ว่าคุณต้องใช้ความพยายามและความเข้าใจในกระบวนการสร้างสรรค์ เพื่อสามารถนำมันออกมาใช้ได้
มีการวิจัยที่พบว่าคนส่วนมากสามารถหาทางแก้ปัญหาที่ดีและมีความคิดที่ดีกว่าที่พวกเขารู้ตัว ตัวอย่างเช่น พวกเขาได้รับโจทย์ปัญหาและให้เสนอความคิดในการแก้ไขปัญหานั้น เมื่อได้เสนอความคิดต่างๆจนหมดภูมิแล้ว ผู้วิจัยก็ให้พวกเขาแยกย้ายกันไปและลองไปคิดมาอีก พวกเขาก็คิดมาได้ และในแทบทุกครั้ง ความคิดที่ได้มาครั้งหลังนี้จะดีกว่าตอนแรกเสมอคุณก็เช่นกัน คุณยังไม่ได้พยายามมากพอในการคิดและสร้างสรรค์ความคิดใหม่ๆที่จะนำมาใช้ในงานของคุณ
3. ตั้งเป้าหมายให้สูงขึ้น
ตั้งเป้าหมายที่คุณต้องพยายามให้สูงขึ้นกว่าปกติ เพราะจะทำให้คุณมีแรงผลักดันอยู่เสมอ จงแข็งกร้าวในการตั้งเป้าหมายและพร้อมเสมอที่จะรับความกดดัน
4. รู้งาน
หัวใจของงานคุณมีอะไรบ้าง ลำดับความสำคัญเป็นอย่างไร จงมองทะลุผ่านงานที่ทำประจำอยู่ในแต่ละวัน เพื่อหาจุดที่สามารถปรับปรุงได้ทั้งในงานและ ในหน่วยงาน ส่วนใหญ่แล้วคุณมักจะทำงานไปวันๆโดยไม่คิดอะไรมากหรือไม่ จงคิดเสียบ้าง จัดเป้าหมายงานให้เหมาะสมอยู่เสมอ
5. ยึดมั่นอยู่กับเป้าหมายหลัก
อย่าปล่อยให้ตนเองเบี่ยงเบนจากเป้าหมายหลัก มุ่งมั่นกับประเด็นสำคัญและใช้เวลาคิดและทบทวนให้มากพอ คนส่วนมากไม่บรรลุทุกสิ่งตามที่ควรทำได้ เพราะพวกเขาไม่มีจุดยึดให้กับความคิดและความพยายามที่ใช้ไป เขายุ่งกับกิจกรรมหลายสิ่งมากเกินไป จงลงแรงไปกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงสิ่งเดียวแล้วผลงานของคุณจะดีขึ้น
6. หนักแน่นต่อตนเอง
คุณมีหน้าที่ใช้ประโยชน์จากตัวคุณให้คุ้มค่าที่สุด คุณต้องพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับตนเองและประเมินจุดอ่อนและจุดแข็งของคุณเองได้ คุณต้องมองภาพที่ชัดเจนว่าความคิดและพฤติกรรมของคุณมีข้อบกพร่องอันอาจเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จอย่างไร และสร้างรูปแบบใหม่ในแง่ที่ดีกว่าเดิม บุคคลอื่นอาจช่วยให้ข้อมูลแก่คุณในด้านที่มองไม่เห็นได้ คุณต้องมีวินัยในตนเองและรู้จักวิจารณ์ตนเอง คุณจะต้องมีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จ ที่จะภาคภูมิใจในสิ่งที่คุณทำและหนักแน่นต่อตัวคุณเอง เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ
Cr. 101 คัมภีร์วิถีของผู้จัดการยุคใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น