วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ข้อคิดจากเรื่องเล่า: แข่งนับธนบัตร


       สถานีโทรทัศน์ในปัจจุบัน มีรายการบันเทิงอยู่มากมาย ซึ่งเปิดโอกาสให้ทางบ้านร่วมสนุก โดยมีรางวัลให้ด้วย หนึ่งในรายการบันเทิงที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ แข่งนับธนบัตร พิธีกรนำธนบัตรหลายปึกใหญ่ ซึ่งมีหลายราคาและซ้อนกันอย่างไม่มีกฎเกณฑ์ตั้งเรียงไว้ ชี้ตัวท่านผู้ชมที่เข้าร่วมรายการจริง 4 คนออกมาร่วมสนุก โดยกำหนดเวลา 3 นาที ใครนับได้มากที่สุด ถูกต้องที่สุด เงินที่ใครนับได้ ก็จะตกเป็นรางวัลของผู้นับทันที

       พิธีกรประกาศกติกาออกไป ก็สร้างความฮือฮาขึ้นในรายการทันที ทุกคนคิดว่าภายในเวลา 3 นาทีก็นับได้ไม่ถึงหมื่น ก็ต้องได้หลายพัน ใช้เวลาสั้นๆแค่ไม่กี่นาที จะไม่ตื่นเต้นกันได้อย่างไร!

       เกมเริ่มขึ้นแล้ว ทั้งสี่คนเริ่มก้มหน้านับธนบัตร แน่นอนว่าช่วงเวลา 3 นาทีนี้ พิธีกรไม่ปล่อยให้พวกเขามีสมาธินับธนบัตรอย่างเด็ดขาด เขายกไมค์ขึ้น พูดนั่นพูดนี่ ตั้งคำถามหักมุมให้ผู้ร่วมสนุกต้องคิดตามและตอบตลอด เพื่อให้การคิดสมาธิของพวกเขาเกิดอาการสะดุด อีกทั้งต้องตอบให้ถูกต้อง จึงจะยอมให้ผ่าน พริบตาเดียวเวลา 3 นาทีก็หมดลง ผู้ร่วมสนุกสี่คนในมือต่างถือธนบัตรคนละปึก หนาบางไม่เท่ากัน พิธีกรยื่นปากกา ให้พวกเขาเขียนตัวเลขที่นับได้เมื่อกี้นี้ไว้

       คนแรก 3,090 หยวน คนที่สอง 5,130 หยวน คนที่สาม 4,680 หยวนและคนที่สี่ สงสัยมักน้อยนับได้แค่ 500 หยวน ธนบัตรคนนี้นับได้ตัวเลขต่างกันค่อนข้างมาก ขณะที่พิธีกรประกาศตัวเลขทั้งหมดข้างต้น ผู้ชมข้างล่างเวมีหัวเราะครืน พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่สี่ถึงนับได้น้อย?

       ต่อมา พิธีกรจึงเริ่มทำการพิสูจน์ว่าตัวเลขธนบัตรที่ทุกคนนับได้เมื่อสักครู่ถูกต้องหรือไม่ เบื้องหน้าสายตาผู้ชมจำนวนมากข้างล่างเวที พิธีกรก็นับธนบัตรให้เห็นกันชัดๆ ตัวเลขที่ถูกต้องคือ 3,095 หยวน 5,131 หยวน 4,673 หยวน และ 500 หยวน หมายความว่า สามคนแรกซึ่งนับธนบัตรได้มาก มิใช่นับเกิน 100 หยวน ก็ขาดไป 5 หยวนหรือ 10 หยวน นับได้ผิดไปเล็กๆน้อยๆ มีแต่คนที่สี่ซึ่งนับได้น้อยที่สุดคือ 500 หยวน นับได้ถูกต้อง ตามกติกานั้นมีแต่คนที่สี่เท่านั้นที่ได้รับเงินรางวัลจำนวน 500 หยวน ส่วนอีก 3 คนไม่ได้เงินรางวัลแม้แต่น้อยกับการตื่นเต้น 3 นาทีเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา

       ผู้ชมข้างล่างเวที เห็นผลที่ผิดไปจากคาดหมายเช่นนี้ แรกทีเดียวถึงกับเงียบกริบ จากนั้นตามมาด้วยเสียงปรบมือดึงกึกก้อง ตอนนี้เองพิธีกรยกไมค์ขึ้น บอกความลับหนึ่งแก่ท่านผู้ชมด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า ตั้งแต่จัดรายการและมีการร่วมสนุกลักษณะนี้ ยังไม่มีใครได้เงินรางวัลเกิน 1,000 หยวน


เรื่องนี้กำลังบอกอะไรเราอยู่?

       คำพังเพยที่ว่า โลภมากเคี้ยวไม่ละเอียด แสดงออกในแง่การงาน คือ มักง่าย สุกเอาเผากิน ไม่ละเอียดรอบคอบ ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดได้ง่าย

       ใจต้องไม่โลภ จึงจะก้าวไปทีละก้าวได้อย่างมั่นคง ยืนบนจุดที่ไม่มีวันแพ้ ยอมขาดไม่เกิน จึงจะทำสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นได้

Cr. เจียระไนปัญญา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น