วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ทำ prime time ให้เป็น prime


     ทุกคนน่าจะเคยรู้สึกว่า เวลามีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ ยิ่งอายุมากขึ้น ความรับผิดชอบก็มากขึ้น ทุกอย่างประดังเข้ามาจนหลายครั้งแทบจัดการไม่ไหว พอรู้ตัวอีกทีก็มองชีวิตผ่านไปโดยไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ซึ่งคนส่วนมากบนโลกนี้ที่เป็นแบบนั้น พวกเขาเสียเวลากับเรื่องด่วนที่ไม่สำคัญตลอดทั่งชีวิต

     แต่ทุกคนมีทางเลือกที่ดีกว่านั้น เพราะในชีวิตนี้ไม่มีอะไรมีค่ามากกว่าเวลา เวลาจึงเป็นของที่แพงที่สุด

     ความจริงข้อหนึ่งซึ่งไม่เคยมีสอนในโรงเรียน คือ คนเรามีพลังงานที่จะใช้คิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาในวันๆหนึ่งแค่สองสามชั่วโมงเท่านั้น หลังจากนั้นความสามารถในด้านนี้จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคนส่วนใหญ่บนโลกนี้ก็เป็นลักษณะนี้

     ซึ่งเวลานี้ ขอเรียกสั้นๆว่าเป็น "prime time"

     เวลาที่เป็น prime time ของคนส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงเช้า แต่น่าเสียดายที่หลายคนใช้ prime time อย่างไม่เกิดประโยชน์เลย การจะใช้เวลาช่วงนี้ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด คุณต้องเข้าใจประเด็นหนึ่งก่อนว่า คนที่ประสบความสำเร็จล้วนมีนิสัยแห่งความสำเร็จ เพราะนิสัยคือสิ่งที่ส่งผลต่อพฤติกรรมประมาณครึ่งหนึ่งที่คุณทำอยู่ทุกวันโดยไม่รู้ตัว

     การสร้างนิสัยที่ดีและการเปลี่ยนนิสัยไม่ดีจึงสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งสองอย่างนี้ในที่สุดจะสร้างให้คุณเป็นคนที่ประสบความสำเร็จหรือเป็นเพียงคนธรรมดาที่ทำอะไรสำเร็จตามฝันไม่ได้สักอย่าง

     คนที่ประสบความสำเร็จบนโลกนี้ไม่ใช่คนที่ทำงานด้วยชั่วโมงทำงานเยอะที่สุด แต่เป็นคนที่บริหารเวลาเป็นและการบริหารเวลาในช่วง prime time ก็มีความสำคัญมากถึง 80% เลยที่เดียว

     ถ้าอยากทำงานเก่ง เวลา prime time คือเวลาทองที่ต้องได้รับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยแนวทางที่ใช้และเห็นผลเป็นดังนี้


1. ระวังเรื่องเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์

     ถ้าเป็นไปได้ คุณไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์ เช็คอีเมลหรือใช้โทรศัพท์มือถือก่อน 11 โมงเช้า เว้นคุณต้องใช้เพื่อทำงานสำคัญจริงๆ เพราะของทั้งสองอย่างนี้จะทำให้เสียสมาธิซึ่งถือเป็นสารตั้งต้นของความคิดสร้างสรรค์ทั้งหลายทั้งปวง เวลาช่วง prime time ในตอนเช้าควรถูกนำไปใช้ในการทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์


2. ต้องรู้ว่า the thing of the day คืออะไร?

     ถ้าหากวันนี้คุณมีเวลาทำงานได้แค่หนึ่งหรือสองอย่าง คุณจะทำอะไรและจัดการให้มันจบในช่วงเวลาทองนี้ ที่สำคัญคุณควรวางแผนเรื่องนี้มาตั้งแต่วันก่อน (ช่วงเย็นก่อนกลับบ้านของการทำงาน หรือ ช่วงก่อนนอน) คุณต้องสามารถเลือกและคิดได้ด้วยตนเองว่าอะไรสำคัญหรือไม่สำคัญ


3. ทำสิ่งที่ยากที่สุดก่อน

     มนุษย์เราถ้าปล่อยให้อยู่ในโหมดอัตโนมัติ มักจะหลีกเลี่ยงการทำงานยากๆหรืองานที่ต้องใช้สมองเยอะๆก่อน ลึกๆแล้วเป็นเพราะว่ามนุษย์กลัวงานยาก แต่ในช่วง prime time งานพวกนี้ต้องได้รับการทำก่อน และเกือบ 100% งานที่ยากคืองานที่สำคัญ


4. ปฏิเสธให้เป็น

     คุณต้องยอมรับว่าในหนึ่งวันยังไงคุณก็ไม่มีทางทำงานทุกอย่างให้เสร็จหมด แต่คุณต้องทำสิ่งที่สำคัญให้เสร็จ บางครั้งงานที่ไม่สำคัญ คุณสามารถมอบหมายให้คนอื่นทำแทนหรือไม่ต้องทำมันเลย อย่าสบประมาทความไม่สำคัญของเกือบทุกสิ่งที่จะมาดึงดูดเวลาของคุณ


5. ออกกำลังกายและนั่งสมาธิก่อนมาทำงาน

     การออกกำลังกายเพียง 30 นาทีและนั่งสมาธิก่อนทำงานซึ่งอาจเป็นช่วงก่อนนอนก็ได้เพียง 10 นาทีช่วยให้ประสิทธิภาพสมองดีขึ้นอย่างมากมาย มันจะทำให้ prime time ของคุณยิ่ง prime เข้าไปอีก (สำหรับคนรุ่นใหม่แนะนำ app ที่ชื่อ Calm)


6. ฟัง audio book ระหว่างเดินทางไปทำงาน

     สำหรับเมืองที่รถติด การทำงานใกล้บ้านเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเลือกได้และต้องเสียเวลามากมายตอนเช้าเพื่อเดินทางไปทำงาน 

     คุณควรใช้เวลาช่วงนี้ฟัง audio book ซึ่งคุณลองค้นหาในอินเทอร์เน็ต หรือ ใช้ app ที่ชื่อว่า podcast โหลดฟัง audio book ได้ตามใจชอบ โดยมีให้เลือกแบบทั้งโหลดฟรีหรือแบบเสียเงิน ถือว่าการได้ฟังวันละชั่วโมงแค่ปีเดียว ความรู้ของคุณก็จะเพิ่มขึ้นเยอะมาก


7. นั่งในท่าที่ถูกต้องและเดินไปเดินมาบ้าง

     สมองของคนเราต้องการออกซิเจนเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นปอดของเราจึงต้องสามารถขยายตัวและหดตัวอย่างเต็มที่ เพื่อลำเลียงออกซิเจนไปให้ส่วนต่างๆของร่างกายได้ใช้งาน แต่ท่านั่งของมนุษย์ออฟฟิศส่วนใหญ่ที่ก้มตัวเข้าหาจอตอมพิวเตอร์โดยเฉพาะท่านั่งที่ผิดท่า มีส่วนทำให้ปอดทำงานไม่เต็มที่ ดังนั้นการนั่งท่าที่ถูกต้องหรือลุกเดินไปเดินมาบ้าง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง


8. นอนให้พอ

     เรื่องการนอนสำคัญกับ prime time มาก คนส่วนใหญ่นอนไม่พอไม่รู้ตัว จริงๆการนอนวันละ 4-5 ชั่วโมงไม่เพียงพอ แต่ที่รู้สึกสบายดีเป็นเพราะว่าความเคยชิน การอดนอนเพื่อคิดว่าจะมีเวลาทำงานมากขึ้นนั้นจึงเป็นวิธีที่ผิด

     มีงานวิจัยที่ทำโดยมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย บอกว่า หากคุณนอนหลับแค่ 6 ชั่วโมงต่อคืนติดต่อกันเป็นเวลาสองสัปดาห์ จะทำให้ประสิทธิภาพทั้งร่างกายและสมองของคุณลดลงเทียบเท่ากับการที่คุณไม่นอนเลย 48 ชั่วโมง

     ดังนั้นจึงอยากให้คุณลองปรับเวลานอนมาเป็น 7-8 ชั่วโมง แค่เดือนเดียวคุณจะเห็นด้วยตัวเองว่าประสิทธิภาพของสมองดีขึ้น ทำงานเสร็จเร็วขึ้นและที่สำคัญมีความสุขมากขึ้น การนอนก็เปรียบเสมือน การลับขวาน


     คุณลองปรับวิธีคิดเรื่องเวลาแล้วคุณจะพบว่าผลงานของคุณจะดีขึ้น และมีเวลาเหลือไปทำเรื่องอื่นอีกมากมายจนแม้แต่คุณเองยังต้องตกใจ เพราะว่า "เวลา prime time จะตัดสินชีวิตคุณ"


Cr. คิดจะไปดวงจันทร์ อย่าหยุดแค่ปากซอย - หนังสือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น