แต่ทุกคนมีทางเลือกที่ดีกว่านั้น เพราะในชีวิตนี้ไม่มีอะไรมีค่ามากกว่าเวลา เวลาจึงเป็นของที่แพงที่สุด
ความจริงข้อหนึ่งซึ่งไม่เคยมีสอนในโรงเรียน คือ คนเรามีพลังงานที่จะใช้คิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาในวันๆหนึ่งแค่สองสามชั่วโมงเท่านั้น หลังจากนั้นความสามารถในด้านนี้จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคนส่วนใหญ่บนโลกนี้ก็เป็นลักษณะนี้
ซึ่งเวลานี้ ขอเรียกสั้นๆว่าเป็น "prime time"
เวลาที่เป็น prime time ของคนส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงเช้า แต่น่าเสียดายที่หลายคนใช้ prime time อย่างไม่เกิดประโยชน์เลย การจะใช้เวลาช่วงนี้ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด คุณต้องเข้าใจประเด็นหนึ่งก่อนว่า คนที่ประสบความสำเร็จล้วนมีนิสัยแห่งความสำเร็จ เพราะนิสัยคือสิ่งที่ส่งผลต่อพฤติกรรมประมาณครึ่งหนึ่งที่คุณทำอยู่ทุกวันโดยไม่รู้ตัว
การสร้างนิสัยที่ดีและการเปลี่ยนนิสัยไม่ดีจึงสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งสองอย่างนี้ในที่สุดจะสร้างให้คุณเป็นคนที่ประสบความสำเร็จหรือเป็นเพียงคนธรรมดาที่ทำอะไรสำเร็จตามฝันไม่ได้สักอย่าง
คนที่ประสบความสำเร็จบนโลกนี้ไม่ใช่คนที่ทำงานด้วยชั่วโมงทำงานเยอะที่สุด แต่เป็นคนที่บริหารเวลาเป็นและการบริหารเวลาในช่วง prime time ก็มีความสำคัญมากถึง 80% เลยที่เดียว
ถ้าอยากทำงานเก่ง เวลา prime time คือเวลาทองที่ต้องได้รับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยแนวทางที่ใช้และเห็นผลเป็นดังนี้
ถ้าเป็นไปได้ คุณไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์ เช็คอีเมลหรือใช้โทรศัพท์มือถือก่อน 11 โมงเช้า เว้นคุณต้องใช้เพื่อทำงานสำคัญจริงๆ เพราะของทั้งสองอย่างนี้จะทำให้เสียสมาธิซึ่งถือเป็นสารตั้งต้นของความคิดสร้างสรรค์ทั้งหลายทั้งปวง เวลาช่วง prime time ในตอนเช้าควรถูกนำไปใช้ในการทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์
2. ต้องรู้ว่า the thing of the day คืออะไร?

3. ทำสิ่งที่ยากที่สุดก่อน

4. ปฏิเสธให้เป็น
คุณต้องยอมรับว่าในหนึ่งวันยังไงคุณก็ไม่มีทางทำงานทุกอย่างให้เสร็จหมด แต่คุณต้องทำสิ่งที่สำคัญให้เสร็จ บางครั้งงานที่ไม่สำคัญ คุณสามารถมอบหมายให้คนอื่นทำแทนหรือไม่ต้องทำมันเลย อย่าสบประมาทความไม่สำคัญของเกือบทุกสิ่งที่จะมาดึงดูดเวลาของคุณ
5. ออกกำลังกายและนั่งสมาธิก่อนมาทำงาน
การออกกำลังกายเพียง 30 นาทีและนั่งสมาธิก่อนทำงานซึ่งอาจเป็นช่วงก่อนนอนก็ได้เพียง 10 นาทีช่วยให้ประสิทธิภาพสมองดีขึ้นอย่างมากมาย มันจะทำให้ prime time ของคุณยิ่ง prime เข้าไปอีก (สำหรับคนรุ่นใหม่แนะนำ app ที่ชื่อ Calm)
6. ฟัง audio book ระหว่างเดินทางไปทำงาน
สำหรับเมืองที่รถติด การทำงานใกล้บ้านเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเลือกได้และต้องเสียเวลามากมายตอนเช้าเพื่อเดินทางไปทำงาน
คุณควรใช้เวลาช่วงนี้ฟัง audio book ซึ่งคุณลองค้นหาในอินเทอร์เน็ต หรือ ใช้ app ที่ชื่อว่า podcast โหลดฟัง audio book ได้ตามใจชอบ โดยมีให้เลือกแบบทั้งโหลดฟรีหรือแบบเสียเงิน ถือว่าการได้ฟังวันละชั่วโมงแค่ปีเดียว ความรู้ของคุณก็จะเพิ่มขึ้นเยอะมาก
7. นั่งในท่าที่ถูกต้องและเดินไปเดินมาบ้าง

8. นอนให้พอ

มีงานวิจัยที่ทำโดยมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย บอกว่า หากคุณนอนหลับแค่ 6 ชั่วโมงต่อคืนติดต่อกันเป็นเวลาสองสัปดาห์ จะทำให้ประสิทธิภาพทั้งร่างกายและสมองของคุณลดลงเทียบเท่ากับการที่คุณไม่นอนเลย 48 ชั่วโมง
ดังนั้นจึงอยากให้คุณลองปรับเวลานอนมาเป็น 7-8 ชั่วโมง แค่เดือนเดียวคุณจะเห็นด้วยตัวเองว่าประสิทธิภาพของสมองดีขึ้น ทำงานเสร็จเร็วขึ้นและที่สำคัญมีความสุขมากขึ้น การนอนก็เปรียบเสมือน การลับขวาน
คุณลองปรับวิธีคิดเรื่องเวลาแล้วคุณจะพบว่าผลงานของคุณจะดีขึ้น และมีเวลาเหลือไปทำเรื่องอื่นอีกมากมายจนแม้แต่คุณเองยังต้องตกใจ เพราะว่า "เวลา prime time จะตัดสินชีวิตคุณ"
Cr. คิดจะไปดวงจันทร์ อย่าหยุดแค่ปากซอย - หนังสือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น