ความสมดุลอยู่ในหัวของตัวเอง..จงใช้อย่างสมดุล
มีอาการแบบนี้บ้างหรือไม่ เมื่อคุณส่องกระจกซ้ำซากวันละนานๆ หรือบ่อยๆ ใช้เครื่องสำอางพอกกลบส่วนต่างๆ มากหรือบ่อยๆ เผลอๆก็ดูแต่รูปลักษณ์ตัวเอง ถ่ายรูปที่มีตัวเองก็ให้แก้ไขถ่ายใหม่อยู่นั่นแล้ว ย้ำคิด คิดซ้ำๆ ซากๆ แบบพายเรือในอ่าง
อาการดังกล่าวเกี่ยวข้องเกี่ยวกับความบกพร่องของตัวเอง เรียกว่า โรค "ชอบดูถูก(รูปกาย)ตัวเอง" หรือ "โรคมองตัวเองในแง่ร้าย (body dysmorphic disorder (BDD)"
ศาสตราจารย์ดอกเตอร์จาร์มี เฟาส์เนอร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจิตเวช และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำการศึกษาคนไข้ BDD และผลการตรวจด้วยเครื่องตรวจสนามแม่เหล็ก-วิทยุแบบพิเศษ (functional MRI) พบว่า สมองของคนที่เป็นโรค BDD ใช้สมองซีกซ้ายมากกว่าคนทั่วไป (ขอบคุณข้อมูลจาก นพ. วัลลภ พรเรืองวงศ์)
อย่างที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าสมองคนเรามีการทำงานในรูปแบบสมองซีกซ้ายและสมองซีกขวา
- สมองซีกซ้ายใช้เหตุผล ระบบตรรกะ คิดคำนวณ วิเคราะห์ออกเป็นส่วนๆ
- สมองซีกขวาใช้อารมณ์ ชอบสังเคราะห์หรือสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ
คนที่สมองซีกซ้ายทำงานเด่นมากเกินเสี่ยงที่จะเป็นคนจริงจัง เครียดง่าย เถรตรง ขาดความยืดหยุ่น เปรียบได้กับ "ไม้บรรทัดน้ำแข็ง" ซึ่งตรงและแข็ง ทว่า... เปราะ หักง่าย
ตรงกันข้าม คนที่สมองซีกขวาทำงานเด่นมากเกินเสี่ยงที่จะเป็นคนช่างฝัน เรื่อยๆ เปื่อยๆ ขาดระเบียบ การใช้ชีวิตไม่ค่อยมีแบบแผน ขั้นตอน สื่อสารกับคนอื่นไม่ค่อยเข้าใจ ทำอะไรไม่ค่อยสำเร็จ หนักไปทางเพ้อ อยู่ในโลกของความฝันมากกว่าโลกของความจริง
ถ้าเชื่อว่าการดำเนินชีวิตเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ควรจะใช้สมองซีกขวาและซ้ายให้สมดุล คือ ใช้ความรู้สึกและความคิดผสมกันไปด้วย คือ
- ฝันนั้นเป็นของเรา ไม่ใช่ทำตามคำบอกเล่าของคนอื่น
- รู้สึกให้ลึกซึ้งกว่า ไม่ใช่จับตาอยู่แค่ผิวเผิน
- พิจารณาเข้าใจการกระทำ ไม่ใช่แค่คำพูด
- ตัดสินใจโดยใช้สัญชาตญาณ ไม่ใช่แค่เหตุผล
- รักอะไรให้มันจริง ไม่ใช่เป็นแค่สิ่งที่ควรทำ
- สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ไม่ได้แค่เดินตามกัน
- เปิดโลกใบใหม่ ไม่อยู่แค่ในโลกเดิมๆ
- กล้าตัดสินใจ ไม่ใช่ลังเลไปทุกเรื่อง
- ใส่ใจความสวยงามของชีวิต ไม่ใช่แค่อยู่ไปวัน ๆ
- ฝึกใช้มือข้างที่ไม่ถนัดบ่อยๆ ถ้าถนัดขวาก็หัดใช้มือซ้ายถือช้อนกินข้าว
ล้างรถ ฯลฯ อย่างน้อยในวันหยุด
- ฝึกดนตรี ซึ่งมีส่วนฝึกมือและแขนข้างที่ไม่ถนัดสูง
เนื่องจากทักษะด้านนี้มักจะต้องใช้ 1 สมอง 2 มือ
- ออกกำลังและเล่นกีฬาเป็นประจำ โดยเน้นทำอะไรที่ไม่ซ้ำซากบ่อยๆ
- ปลูกต้นไม้ หรือ ดอกไม้
- เลี้ยงสัตว์แบบไม่กักขัง หรือให้อาหารสัตว์
- ฝึกสมาธิ เช่น ฝึกกำหนดลมหายใจ ฝึกไทเกก-ไทชิ(ชี่กง) โยคะ ฯลฯ
- ฝึกทำอะไรที่ไม่เคยทำบ่อยๆ เช่น เปลี่ยนเส้นทางเดินไปทำงาน(ถ้าไม่รีบ)
เปลี่ยนงานอดิเรก ฯลฯ
- ยอมรับให้ได้ว่า คนเราเกิดมาไม่สมบูรณ์ (People were born to be imperfect)
อยู่กับความไม่สมบูรณ์แบบของเราให้ได้
- ฝึกมองหาข้อดี หรืออะไรดีๆของเรา อย่างน้อยวันละ 1 อย่างก่อนนอน
- ชมการทำดีของคนอื่นออกมาเป็นคำพูดให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
Cr. Business Link เชื่อมช่อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น