วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558

การพัฒนาตนเอง


Little minds have little worries. Big minds have no time for worries 
- Ralph Waldo Emerson
คนคิดเล็กย่อมมีความกังวลมากมาย แต่คนคิดใหญ่ย่อมไม่มีเวลาที่จะกังวล
- ราล์ฟ วัลโด อีเมอร์สัน

     ประโยคดังกล่าว ผมเจอในหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อ "เวลาไม่ใช่ของคุณ แต่เป็นของชีวิตคุณ" (It's not your time! It's the time of your life) ซึ่งเขียนและเรียบเรียงโดยคุณเฌอมาลย์ รัตนพงศ์ตระกูล ซึ่งในบทหนึ่งในหนังสือดังกล่าว ผมจึงอยากมาเอามาแบ่งกับชาว Blogger และท่านผู้อ่านทุกคน ซึ่งเป็นเรื่องของ "การพัฒนาตนเอง" (Self development) เนื่องจากเป็นเนื้อหาที่อธิบายและพูดถึงคำดังกล่าวได้อย่างชัดเจนและมีรายละเอียดพอสมควร

     ในบทความนี้ผมจึงนำเนื้อหาดังกล่าวทำให้อยู่ในรูปที่กระชับขึ้น และหวังว่าจะมีผลให้ทุกคนให้ความสำคัญและรู้จักกับคำว่า "การพัฒนาตนเอง" ได้ดีขึ้นและมากขึ้น

---

การพัฒนาตนเองสำคัญอย่างไร?

      ทุกคนย่อมรู้ว่า ถ้าไม่พัฒนาตนเอง ชีวิตจะไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าคนส่วนน้อยที่จะพยายามจะพัฒนาตนเอง ในขณะที่คนส่วนใหญ่ อ้างถึงการไม่มีเวลา ไม่สามารถทำได้สม่ำเสมอ หรืออ้างว่าเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้หรือทำได้ยาก

      แท้จริงแล้ว การพัฒนาตนเองเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เป็นเป้าหมายอันดับแรกที่ต้องปฏิบัติทุกวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นสิ่งที่ "ต้อง" ปฏิบัติและทำให้มากที่สุดเท่าที่เวลาควรจะมี คนที่ประสบความสำเร็จจะรู้สึกว่าหากวันใดไม่ได้มีการพัฒนาตนเอง ความก้าวหน้าในชีวิตจะไม่ได้มากขึ้นเลยแต่กลับรู้สึกถดถอยลง


วิธีพัฒนาตนเองทีคุณควรทำเป็นประจำ

     แบ่งออกเป็น 3 วิธีใหญ่ๆดังนี้

1. เรียนรู้สิ่งที่ยังไม่รู้ หรือเรียนรู้สิ่งที่รู้เพิ่มเติม

     เพราะยิ่งคุณรู้มากเท่าใด คุณก็จะยิ่งมีโอกาสดีๆในชีวิตมากเท่านั้น คนฉลาดไม่ได้เรียนรู้เพราะต้องการเป็นคนฉลาดแต่เพราะพวกเขารู้สึกว่าต้องการเรียนรู้อย่างที่ไม่สิ้นสุด อาจกล่าวได้ว่า คนที่ชอบเรียนรู้นั้นฉลาดเพราะความบังเอิญ แต่คนที่ไม่ชอบเรียนรู้นั้นโง่เขลาเพราะความตั้งใจ

     คนที่ประสบความสำเร็จจะเชื่อว่า ทำตัวโง่เขลาย่อมดีกว่าทำตัวฉลาด เพราะถ้าเมื่อใดคิดว่าคุณเป็นคนฉลาดแล้ว การเรียนรู้ต่างๆของคุณจะหยุดชะงักทันที

     การที่คุณเรียนรู้สิ่งใดนั้น อาจขึ้นอยู่กับความจำเป็นหรือความสนใจในตัวคุณ แต่ถ้าคุณไม่มีเวลามากนัก คุณอาจจะเลือกเรียนรู้ตามลำดับดังต่อไปนี้ (A -> B -> C)

A. เรียนรู้ว่าสิ่งที่คิดว่าสำคัญและจำเป็นต้องรู้ก่อน

     โดยเฉพาะเรื่อง งานหรือธุรกิจ วิชาที่เรียน ที่คุณทำอยู่ เพราะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะความรู้ที่คุณทำงานหรือเรียนอยู่ให้มีความก้าวหน้าได้เร็วขึ้นและมากขึ้น

B. เรียนรู้สิ่งที่ควร

     คุณต้องติดตามข่าวสารและความเป็นไปได้ในปัจจุบัน เช่น เศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี และความรู้รอบตัวต่างๆ ถึงแม้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่คุณสนใจ แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นในการสนทนากับคนส่วนใหญ่ หากคุณไม่รู้ในสิ่งที่คนส่วนใหญ่รู้ คุณคงไปคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องและคนอื่นอาจมองว่าคุณเป็นคนตกยุค

C. เรียนรู้สิ่งที่คุณสนใจและอยากรู้

     อาจไม่จำเป็น แต่มีประโยชน์ เช่น ประวัติบุคคลสำคัญ หรือ เรื่องแปลกๆที่คุณสนใจ เป็นต้น ความอยากรู้อยากเห็น (ที่ดี) เป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากทำให้คนอยากที่จะเรียนรู้ และช่วยให้คุณฉลาดขึ้น


2. ฝึกฝนสิ่งทียังไม่ได้หรือยังทำได้ไม่ดี

     เพราะการที่คุณประสบความสำเร็จได้นั้น คุณย่อมต้องมีบางสิ่งที่ทำได้ดีหรือทำได้ดีที่สุดอย่างน้อยหนึ่งอย่าง ดังนั้นคุณต้องฝึกฝนพยายามสิ่งที่คุณยังทำได้ไม่ดี เพื่อที่คุณจะมีหลากหลายทางความถนัดและชำนาญมากขึ้น โดยอาจเรียงลำดับดังต่อไปนี้ (A -> B -> C)

A. ฝึกฝนสิ่งทีคุณจำเป็นต้องทำก่อน

     เช่น การทำงาน ถ้าคุณยังทำงานได้ไม่ดี คุณจำเป็นต้องฝึกฝนและพัฒนาทักษะความสามารถของคุณอย่างสม่ำเสมอ อย่าเมินเฉยหรือไม่จริงจัง เพราะมิเช่นนั้น โดยเฉพาะถ้าคุณทำงานมาห้าปีหรือสิบปีและคุณไม่ได้มีการพัฒนาตนเองเลย แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือ คุณจะเห็นระดับความแตกต่างความก้าวหน้าและความสำเร็จระหว่างคุณกับคนที่พัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอได้อย่างชัดเจน ดังนั้นคุณต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการฝึกฝนและพัฒนาตนเอง อย่ารอให้ถึงเวลาที่จำเป็นแล้วค่อยทำ เพราะมันอาจสายเกินไป

B. ฝึกฝนสิ่งที่คุณอยากทำ

     ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรกหรืออะไรก็ตามที่คุณทำแล้วมีความสุขแต่ยังทำได้ไม่ได้ดี ลองพยายามฝึกฝนอย่างตั้งใจและจริงจังและค่อยเป็นค่อยไปจนกว่าจะเริ่มทำได้ ไม่ช้าคุณจะทำได้ดีขึ้น เนื่องจากเป็นสิ่งที่คุณอยากทำ มีความสุขที่จะอยู่กับมันตลอดชีวิตอยู่แล้ว คุณย่อมชอบและหลงใหลจนเกิดความกระตือรือร้นที่จะทำให้ได้ดี โอกาสที่ความสามารถในการฝึกฝนจึงมีสูงตามไปด้วย

     ถึงแม้ว่าระหว่างการฝึกฝนจะล้มเหลวบ้าง แต่ก็อย่าท้อ อย่าทิ้งมัน คุณต้องพยายามฝึกฝนและให้เวลากับมันต่อไปเรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องถึงระดับดีเยี่ยม เพียงแต่ว่าถ้าคุณทำได้ดีขึ้น คุณจะรู้สึกสนุกมากขึ้น และอาจเป็นความสามารถพิเศษที่ทำเงินได้ด้วย

C. ฝึกฝนสิ่งที่คุณคิดว่าคุณทำไม่ได้

     การท้าทายตัวเองก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการพัฒนาตนเอง เพราะอาจช่วยให้คุณได้เพิ่มความสามารถอีกหนึ่งอย่างให้กับตัวคุณ คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกสิ่งเป็นหรือได้ดี แต่การได้ลองพยายามฝึกฝนจนกว่าคุณจะทำสำเร็จและไม่ล้มเลิกกลางคันย่อมดีกว่าการที่คุณไม่เคยลองพยายามพัฒนาความสามารถในด้านใหม่ๆของคุณเลยหรือคิดว่าคุณทำไม่ได้เพราะเป็นสิ่งที่คุณไม่ถนัดหรือไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งท้ายที่สุดต้องมีสักครั้งหนึ่งในการฝึกฝนที่คุณเริ่มทำได้แล้ว คุณจะภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างมาก


3. พัฒนาสิ่งที่ทำได้ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้น

     ถ้าคุณอยากพัฒนาตนเองในการทำงานและก้าวหน้าในชีวิตการงานมากขึ้น มี 4 สิ่งที่คุณควรจำได้ คือ

A. "ทำได้ดี" ไม่ได้หมายถึง "ดีเยี่ยม" หรือ "ดีที่สุด"

     งานที่คุณทำได้ดี คือ ผลงานที่น่าพอใจ ผลงานที่คุณทำได้ดีเยี่ยม คือผลงานที่น่าชื่นชม ส่วน งานที่คุณทำได้ดีที่สุด คือ ผลงานที่น่าทึ่ง ทั้งนี้ผลงานที่ได้รับการยอมรับจะอยู่ในระดับที่แตกต่างกัน อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกระดับการยอมรับแบบใด หรือระดับความพยายามกับผลที่คุณคาดหวังอยู่ในระดับมากน้อยแค่ไหน

B. อยากก้าวหน้า ต้องก้าวไปข้างหน้าเร็วหรือก่อนกว่าคนอื่นหนึ่งก้าว

     แม้คุณจะทำงานได้ดี แต่คุณยังมีเพื่อนร่วมงานที่ทำได้ดีและอาจมีความสามารถหรือระดับตำแหน่งเดียวกันกับคุณอยู่ ทุกคนล้วนมีโอกาสก้าวหน้าเท่ากัน ดังนั้นถ้าคุณอยากมีโอกาสก้าวหน้าและความสำเร็จมากกว่าคนอื่น การพัฒนาตนเองจึงมีความจำเป็น เพราะช่วยให้คุณเหนือกว่าคู่แข่งของคุณ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าให้ไปชิงดีชิงเด่นกับใคร แต่คุณต้องแข่งขันกับตัวเอง จงพอใจกับการที่เห็นตัวองพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ดีกว่าที่เคยทำ ไม่มีสิ่งที่ดีที่สุดเพราะทุกสิ่งยังดีขึ้นเรื่อยๆเสมอ

C. สร้างแรงกระตุ้นให้กับตัวเอง

     ด้วยแรงกระตุ้นและความทะเยอทะยานของคุณ จงมองคนที่เหนือกว่าและพยายามทำให้ได้อย่างเขา และเมื่อคุณทำได้ดีเท่าเขาแล้ว จงหาคนที่ทำได้ดีเหนือกว่านั้นอีก ค่อยๆตั้งเป้าหมายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้คุณพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง

D. "เงิน" ไม่ใช่เป้าหมายที่ดีที่สุดในการทำงาน

     ถ้าคุณทำงานด้วยเงิน คุณจะทำงานได้แย่ที่สุด แต่ถ้าคุณทำงานเพื่อพัฒนาตนเอง พิสูจน์ความสามารถของตนเอง และเพื่อบรรลุเป้าหมายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ คุณจะทำงานได้ดีที่สุด เพราะเป้าหมายเหล่านั้นมีพลังมากกว่าเงิน ดังนั้นในขณะที่คุณทำงานหรือทำสิ่งใดก็ตาม อย่าให้ความสำคัญกับเงินเพียงอย่างเดียว แต่จงตั้งเป้าหมายที่ช่วยให้คุณได้มีแสดงศักยภาพมากกว่าเดิม หากคุณทำได้ดี เงินจะวิ่งมาหาคุณเอง


   สุดท้ายนี้ คุณลองตอบคำถามนี้ให้กับตัวเองดูว่า "คุณพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวันแล้วหรือไม่?"

Cr. เวลาไม่ใช่ของคุณ แต่เป็นของชีวิตคุณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น