วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ข้อคิดจากเรื่องเล่า: วิธีข้ามสะพานไม้ท่อนเดียว


     นักจิตวิทยาชื่อดังชาวอเมริกันคนหนึ่งเล่าว่า วันหนึ่ง นักศึกษากลุ่มหนึ่งมาขอคำแนะนำจากเขา "สภาวะจิตส่งผลกระทบต่อคนเราอย่างไรบ้าง?"

     เขายิ้มเล็กน้อย ไม่พูดอะไร แต่ให้พวกเขาเข้าไปในห้องมืดและเดินผ่านห้องลึกลับที่มองไม่เห็น แม้แต่นิ้วมือตัวเองที่ยกขึ้นมาจ้องมอง จากนั้น เขาก็เปิดไฟดวงหนึ่งในห้อง ซึ่งให้ความสว่างแค่เล็กน้อยคล้ายแสงเทียน ทั่วทั้งห้องยังมืดสลัวอยู่มาก เห็นแค่ลางๆ

     พวกนักเรียนพอเห็นสภาพภายในห้องก็ถึงกับตกใจกลัว ที่แท้พื้นด้านล่างของห้องคือ บ่อน้ำลึก ในบ่อน้ำมีงูพิษเลื้อยมายั้วเยี้ย รวมทั้งงูเหลือม 1 ตัว และงูเห่าอีก 3 ตัว บางตัวกำลังชูคอแผ่แม่เบี้ย หันมาทางพวกเขา ขู่เสียงดังฟ่อๆ ริมบ่อน้ำพาดไม้ท่อนเดียวหน้าแคบๆ ที่ผ่านมาพวกเขาเดินข้ามสะพานไม้ท่อนเดียวด้วยนี่แหละ

     เขามองนักศึกษาแล้วถามว่า "ตอนนี้ พวกเธอยังจะยินดีเดินข้ามสะพานไม้ท่อนเดียวอยู่หรือไม่?" พวกนักศึกษามองหน่ากันไปมา ไม่มีใครพูดอะไร

     ผ่านไปครู่หนึ่ง มีนักศึกษา 2-3 คนก้าวออกมาอย่างลังเล คนแรกก้าวขึ้นสะพานแล้ว ค่อยๆขยับเท้าไปข้างหน้าด้วยอาการเกร็งและระแวดระวัง ความเร็วช้ากว่าการก้าวครั้งแรกอยู่หลายเท่า คนต่อมาเดินข้ามด้วยหวาดกลัว ทั้งขาและตัวสั่นชนิดไม่อาจควบคุม ไปได้แค่ครึ่งเดียว ก็ไม่ไหว รีบก้มจับตัวสะพานไว้ ส่วนคนที่สาม ก้มตัวลง คลานข้ามสะพานเสียเลย

     "ติ้ก ติ้ก ติ้ก"

     เขาเปิดไฟอีกสองสามดวงภายในห้อง ส่องสว่างทั่วทั้งห้องจนคล้ายอยู่กลางแดดจ้า พวกนักศึกษาขยี้ตามองลงไปที่บ่อน้ำ ก็พบว่าใต้สะพานไม้ท่อนเดียว มีตาข่ายนิรภัยคลุมอยู่ เพียงสีของมันค่อนข้างมัว เมื่อกี้พวกเขาจึงมองไม่เห็น เขาถามเสียงดังว่า

     "พวกเธอยังมีใครอยากลองเดินข้ามสะพานไม้ท่อนเดียวนี้หรือไม่?"

     พวกนักศึกษาไม่ตอบ "ทำไมพวกเธอไม่ลองอีกล่ะ?" เขาถาม

     "คุณภาพตาข่ายนิรภัยนี้ วางใจได้แค่ไหน?" พวกนักศึกษาย้อนถามด้วยอาการคล้ายยังหวั่นๆอยู่

     เขาหัวเราะ "ผมตอบข้อสงสัยของพวกเธอได้แล้ว สะพานไม้ท่อนเดียว ที่จริงแล้วเดินข้ามได้ไม่ยาก แต่งูพิษข้างล่างทำให้เกิดความหวาดกลัวในแง่จิตใจ พวกเธอก็เลยสูญเสียสภาวะจิตที่สงบนิ่ง จนควบคุมตัวเองไม่ได้ มือไม้สั่นไปหมด แสดงให้เห็นความหวาดกลัวในระดับต่างๆ เห็นได้ชัดว่าสภาวะจิตนั้นส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมอย่างแน่นอน"


เรื่องนี้กำลังบอกอะไรเราอยู่?

     แท้จริงแล้ว ชีวิตมิได้เป็นเช่นนี้ดอกหรือ? ขณะเผชิญหน้ากับการท้าทายรูปแบบต่างๆนั้น ความพ่ายแพ้อาจมิได้เป็นเพราะมีพรรคพวกน้อย สติปัญญาต่ำ หรือวิเคราะห์สถานการณ์ไม่ถ่องแท้ แต่เป็นเพราะเห็นอุปสรรคชัดมากไป วิเคราะห์ถ่องแท้และไตร่ตรองละเอียดรอบคอบมากไป กระทั่งถูกอุปสรรคข่มขู่จนหงอ ไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า พวกที่เห็นอุปสรรคไม่ชัดเจน กลับมีความกล้าบุกไปข้างหน้ามากกว่า

     ถ้าขณะเดินข้ามสะพานไม้ท่อนเดียวของชีวิต เราสามารถจะลืมภูมิหลัง มองข้ามภยันตราย เพียงตั้งใจเดินให้ดีอย่างแน่วแน่ ก็เป็นไปได้ว่า เราอาจก้าวเดินถึงจุดหมายปลายทางอย่างสนุกสนานและง่ายดาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น