การมีสมาธิ (flow) เป็นแนวคิดสำคัญในด้านศาสตร์ด้านจิตวิทยาเชิงบวกในปัจจุบัน แนวคิดนี้อธิบายถึงภาวะจิตใจที่กำลังทำงานได้ดีที่สุด เป็นช่วงเวลาที่คุณทำงานด้วยความสามารถสูงสุด
สถานการณ์ที่เอิ้อต่อการมีสมาธิสูงสุดของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อคุณทดลองตามสถานที่และเงื่อนไขต่างๆแล้ว ขอให้นำหลักการ 4 ข้อดังต่อไปนี้มาพิจารณาจนกว่าคุณจะพบส่วนผสมที่ส่งเสริมให้คุณอยู่ในภาวะการมีสมาธิได้
1. สถานที่
- ต้องแน่ใจว่า แสงสว่าง ที่นั่ง ความร้อน และสภาพแวดล้อมทั่วไปจัดมาให้ตรงกับที่คุณชอบ
2. ความไขว้เขว
- หยุดสิ่งรบกวนทุกอย่าง รวมทั้งเสียงรบกวน นี่ไม่ได้หมายความว่า ต้องเงียบเสมอไป
- คุณอาจพบว่าเสียงประกอบรอบตัว หรือเสียงดนตรีบางอย่างอาจช่วยให้เกิดภาวะการมีสมาธิได้
3. สภาพจิตใจ
- กำหนดเส้นตายที่ทำได้จริงแต่ก็ท้าทายตัวคุณเอง เพราะบ่อยครั้งแรงกดดันภายนอกแบบเบาๆ ลักษณะนี้จะช่วยให้คุณมีสมาธิมากขึ้น
- ขอเน้นจุดแข็งของคุณ เพื่อคุณจะได้ตั้งความหวังไว้สูงๆว่าจะทำได้สำเร็จแน่ และละทิ้งความกลัวใดๆหรือความคิดแง่ลบเกี่ยวกับผลลัพธ์ด้วย
4. สภาพร่างกาย
- เพื่อให้เกิดภาวะการมีสมาธิ คุณจะต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอและให้กลูโคสตามที่สมองต้องการ
- คุณควรนอนหลับและทานอาหารที่มีประโยชน์ บางคนคิดได้เร็วขึ้นหากกระตุ้นด้วยคาเฟอีน
ภาวะนี้เกิดขึ้นได้เวลาคุณจดจ่อกับกิจกรรมที่คุณทำได้ดีและความคิดนี้ดูเหมือนจะปลอดโปร่งและมีแรงบันดาลใจมากกว่าปกติ คุณเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นอย่างมากจนรู้สึกว่ามีพลังเต็มที่ คุณเป็นมากขนาดถึงลืมเวลาไปเลย เกิดความรู้สึกสงบ พร้อมกับควบคุมงานที่ทำไว้ได้
คุณจะรู้ตัวว่าอยู่ในภาวะการมีสมาธิเมื่อเหตุการณ์นั้นผ่านไปแล้ว เรื่องนี้เหมือนกับเรื่องสมาธิ ทว่าเมื่อใดคุณรู้สึกว่าได้อยู่ในภาวะนั้นแล้ว แสดงว่าภาวะนั้นจบไปแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น