เนื่องจากอีกไม่ถึงเดือนจะเข้าถึงเทศกาลคริสตมาสและเทศกาลปีใหม่แล้ว ในวันนี้ผมจึงขอนำเสนอบทความเรื่อง เทคนิคการให้ของขวัญ เพื่อให้ชาว Blogger หรือท่านผู้อ่านไว้ใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการเลือกซื้อของขวัญให้กับคนสุดพิเศษของท่านในช่วงเทศกาลนี้
---
การให้ของขวัญเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง มีกฎเกณฑ์ที่ถูกกำหนดขึ้นมา จะให้อะไร ให้แก่ใคร และ ให้อย่างไร ล้วนต้องมีความพิถีพิถันละเอียดอ่อน จะทำแบบง่ายๆส่งเดชไม่ได้ เมื่อมองในแง่นี้แล้ว จะเห็นได้ว่า การให้ของขวัญก็ต้องมีเทคนิควิธี
1. ทำความเข้าใจบุคคลที่คุณจะให้ของขวัญ
บุคคลที่เราจะให้ของขวัญคือใคร เป็นปัญหาที่คุณไตร่ตรองก่อน นั่นคือ ให้ของขวัญให้เหมาะกับคน โดยทั่วไป อาจแบ่งได้ดังนี้
- ให้ของขวัญแก่คนฐานะไม่ดี ต้องให้ของที่เอื้อประโยชน์แก่เขาได้
- ให้ของขวัญแก่คนฐานะดี ต้องให้ของที่มีคุณค่าทางศิลปะ
- ให้ของขวัญแก่คนรัก ต้องให้ของที่เก็บไว้เป็นที่ระลึก
- ให้ของขวัญต่อเพื่อน ต้องเป็นของที่ตรงกับรสนิยมของผู้รับ
- ให้ของขวัญถึงผู้ใหญ่ ต้องเป็นของที่ใช้ประโยชน์ได้
- ให้ของขวัญแก่เด็ก ต้องเป็นของที่ประเทืองปัญญา
- ให้ของขวัญแก่เพื่อนชาวต่างประเทศ ต้องเป็นของพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์ของประเทศคุณ
นอกจากนี้ สังเกตได้จากการสนทนา รสนิยม อุปนิสัย การประดับตกแต่งบ้านของผู้รับของขวัญว่าเป็นไปในแนวทางใด ซึ่งจะเป็นข้อมูลในการเลือกของขวัญอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อให้ผู้รับเกิดความพึงพอใจสูงสุด
2. เลือกของขวัญที่จะให้
ในการคบค้าสมาคมนั้น หากไม่มีจุดประสงค์จะติดสินบน โดยทั่วไป การเลือกของขวัญที่จะให้ มีหลักกา่รเป็นแนวทางปฏิบัติดังนี้
- ต้องงดงามมีคุณค่า หลักการเลือกคือ ความสวยงาม ใครเห็นก็ต้องชม มีเอกลักษณ์และความหมายที่ดี ดูดีมีราคามีชื่อเป็นที่รู้จัก
- เล็กกะทัดรัดมีคุณค่า คุณคงไม่เลือกของขวัญที่ใหญ่เทอะทะ ควรเป็นของน่ารักขนาดเล็ก หากเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ เวลาส่งมอบก็วุ่นวาย คนรับก็รู้สึกอึดอัด
- น้อยแต่มีคุณค่า ของขวัญไม่จำเป็นต้องมากชิ้น เพราะความสำคัญอยู่ที่คุณค่า ไม่ใช่จำนวน
3. เลือกโอกาสให้ที่เหมาะสม
การยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือในขณะที่ผู้รับต้องการความช่วยเหลือ ผู้รับจะรู้สึกประทับใจไม่รู้ลืม เช่น ให้ร่มเมื่อเขาต้องเดินตากฝน ให้ผ้าห่มเมื่อเขาหนาวเหน็บ
เมื่อญาติมิตรมีงานมงคลหรืองานฉลองความสำเร็จ ก็ควรมีของขวัญไปแสดงความยินดีด้วย ซึ่งเป็นกระชับมิตรสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ต้องให้เหมาะสมทันกาล หากล่าช้าเกินไป บางครั้งการไม่ให้ยังดีกว่า เพราะถ้าไม่ให้ก็เป็นเพียงความเลินเล่อของคุณ แต่ถ้าให้ย้อนหลัง กลับจะเป็นการเน้นย้ำให้เห็นว่า คุณมิได้ใส่ใจความสำคัญของเขา
การให้ของขวัญ ต้องเลือกเวลาที่ผู้รับอยู่บ้าน เพราะการฝากของขวัญให้คนอื่นมอบให้ คล้ายไม่มีมารยาท และบางครั้งผู้รับไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่า มีคนส่งของขวัญมาให้ ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ของขวัญเป็นตัวแทนของมิตรภาพ ความจริงใจที่มีต่อกันนั้นสำคัญยิ่งกว่า
ทางที่ดีควรให้เป็นการส่วนตัว ไม่ใช่ให้กันในที่สาธารณะ โดยเฉพาะการให้ของขวัญหัวหน้าหรือเพศตรงข้าม ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ ในกรณีแรก อาจถูกมองว่าเป็นการประจบเจ้านาย ในกรณีหลัง อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องชู้สาว ทั้งๆที่คุณมิได้มีเจตนาอย่างนั้นเลย
4. เรียนรู้เทคนิคการให้ของขวัญ
การให้ของขวัญก็ต้องมีเทคนิค ที่สำคัญคือ วิธีส่ง เพราะเป็นกระบวนการสุดท้ายของการให้ของขวัญ ถ้าให้อย่างเหมาะสมถูกกาลเทศะก็จะพึงพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย ถ้าให้อย่างไม่เหมาะสม ผู้รับไม่ประสงค์ที่จะรับ มีการปฏิเสธ หรือรับแล้วส่งคืน ก็จะเกิดความอึดอัดใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะผู้ให้ที่เสียทั้งเงินและความรู้สึก ดังนั้นการให้ของขวัญจึงต้องมีเทคนิคและควรเรียนรู้ให้เข้าใจด้วย ทำให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านจิตใจและการสร้างเสริมมิตรภาพ
ตัวอย่างเทคนิคดังกล่าว
เด็ดดอกไม้ท่านถวายพระ
เช่น การที่คุณให้ของพื้นเมืองที่ไม่ได้มีราคามากมาย โดยบอกว่ามีเพื่อนเก่านำมาให้ เป็นของพื้นเมืองที่บ้านคุณไม่มี จึงแบ่งมาให้ลองชิม ซึ่งไม่จำเป็นมากและไม่ต้องเสียเงินซื้อมาให้ โดยทั่วไปผู้รับมักเต็มใจรับในความมีน้ำใจของคุณเอง
หากคุณต้องการให้สุราเป็นของขวัญแก่เพื่อนสักขวด คุณอาจไม่ต้องใช้คำว่าให้ แต่ใช้วิธีหิ้วสุราไป 2 ขวด แล้วบอกว่ามีคนให้มา จะเอามาดื่มด้วยกัน ให้เพื่อนช่วยเตรียมกับแกล้มให้ด้วย ดื่มด้วยกันสักขวด ที่เหลือก็ทิ้งไว้บ้านเขา ทั้งได้มิตรภาพและได้ให้ของขวัญ โดยที่เพื่อนไม่รู้สึกลำบากใจ แต่ต้องใช้กับเพื่อนที่สนิท มิฉะนั้น เขาจะคิดว่าคุณเห็นแก่กินหรือเอาปลาตัวเล็กเป็นเหยื่อตกปลาใหญ่ กลับกลายเป็นความรู้สึกที่เลวร้าย
หากคุณต้องการส่งของขวัญให้คนที่เคยผิดใจกัน เพื่อเป็นฝ่ายเริ่มขอคืนดีก่อน คุณอาจหาโอกาส เช่น วันเกิดหรือวันสำคัญอื่นๆของเขา ชวนเพื่อนสัก 2-3 คน นำของขวัญไปแสดงความยินดี อย่างนี้เชื่อว่า เขาคงไม่กล้าปฏิเสธ เมื่อเขารู้จุดประสงค์ของคุณ คุณอาจเปลี่ยนความรู้สึกกลับมามีมิตรภาพที่ดีต่อคุณได้ การให้คนอื่นช่วยเสริมสร้างมิตรภาพ จึงเป็นวิธีการแบบหนึ่ง
อาศัยคนอื่นช่วยทำแทน
คุณ A ต้องการให้ของขวัญแก่คุณ O เพื่อให้คุณ O ช่วยเหลืองานบางอย่าง แต่ไม่สะดวกที่จะให้โดยตรง จึงให้ภรรยาของตนซึ่งสนิทกับภรรยาของคุณ O ทำหน้าที่แทนนำของขวัญไปให้คุณ O อย่างนี้ก็จะไม่ทำให้คุณ O รู้สึกตะขิดตะขวง งานก็สำเร็จ ของขวัญก็มอบให้เรียบร้อย
รักษาศักดิ์ศรีของผู้รับ
การที่คุณจะให้อะไรแก่ครอบครัวที่มีฐานะด้อยกว่า บางครั้งก็ต้องนึกถึงศักดิ์ศรีของเขาด้วย เพราะถ้าคุณใช้วิธีการไม่เหมาะสม เขาอาจไม่ยอมรับการช่วยเหลือของคุณ ทำให้เสียความรู้สึกไปตามๆกัน หากคุณให้สิ่งของ อาจบอกว่า นี่เป็นของเราที่ไม่ได้ใช้ เอามาให้เขาใช้ก่อน หรือเป็นเงินก็เช่นเดียวกัน เอาไปใช้ก่อนแล้วค่อยคืน ทำให้คนรับไม่รู้สึกว่าคุณบริจาคให้ด้วยความสงสาร และรับไว้ด้วยความสบายใจ ผู้ให้อย่างคุณก็สบายใจ
เช่น นักเรียนอยากจะตอบแทนคุณอาจารย์ แต่ไม่มีโอกาส บังเอิญวันหนึ่งไปบ้านอาจารย์ เห็นว่าห้องรับแขกตกแต่งอย่างดี แต่ภาพที่ติดอยู่ข้างฝาเป็นภาพโปสเตอร์ที่ไม่มีคุณค่าและไม่คู่ควรกับห้อง พอดีเขามีภาพที่ญาติซึ่งเป็นจิตรกรมีชื่อคนหนึ่งวาดให้ จึงรีบนำไปให้อาจารย์ติดแทนภาพเดิม ทำให้ดูดีขึ้นมาก สร้างความพึงพอใจให้กับอาจารย์เป็นอย่างมาก การให้เช่นนี้ คล้ายกับการให้ตามความต้องการ เพียงแค่เป็นการช่วยเติมแต่งสิงที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น
การให้แบบเอื้อประโยชน์
การให้บางครั้งไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อมา เช่น หากคุณมีสิทธิพิเศษราคาถูก และเป็นสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ การที่คุณช่วยซื้อให้ในราคาถูก ก็สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับผู้รับได้แล้ว โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินและไม่ลำบากมากนัก ไม่มีใครเดือดร้อน มีแต่ไมตรีที่เพิ่มขึ้น
Cr. วิธีโปรยเสน่ห์อย่างแนบเนียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น