เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องไขว่หาและปรารถนาอยากให้เกิดขึ้นทุกวัน
และเป็นสิ่งที่สามารถส่งต่อและมอบให้คนอื่นได้
แต่
ซึ่งจริงๆมักพบว่ามันก็เหมือนกันกับคนอื่นอีกคน
ที่อาจไม่รู้จักและเคยเจอกันเลย
แต่ละวิธีการสร้างความสุข
มีต้นทุนในการได้มา ไม่เท่ากัน
ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ
และมักซื้อหนังสือมาทุกครั้งถ้าเจอหนังสือที่ถูกใจ
ราคาโดยเฉลี่ยต่อเล่มในปัจจุบันอยู่ที่ 160-250 บาท
(ยังไม่รวมหนังสือการ์ตูนและนิตยสาร)
ซึ่งถือว่าแพงขึ้นกว่าสมัยก่อน
ในขณะที่การดูหนังดีๆหนึ่งเรื่อง มีให้เลือกหลายระดับ
แต่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 160-200 บาท ต่อเรื่อง
ถ้าดูในช่วงวันพุธก็ถูกหน่อยอยู่ที่ 100-120 บาท
ไปเที่ยวในประเทศแบบไม่หรูมาก
ก็ราวๆพันสองพันบาทขึ้นไปต่อคืน
ก็สามารถชาร์ตแบตจากการทำงาน
หรือหลีกหนีความวุ่นวายชั่วขณะ
หรือใช้เวลาร่วมกันกับคนที่เราอยากใช้เวลาร่วมกัน
จริงๆยังมีวิธีการสร้างความสุขแบบมาก
บางครั้งนึกๆอยู่ว่า
การเปรียบเทียบความสุข
เช่น
การอ่านหนังสือดีๆ 1 เล่ม เท่ากับการดูหนังดีๆแบบถูกที่สุดเกือบ 2 เรื่อง
การไปเที่ยวในประเทศ ถึงแม้ว่าใช้เงินมากกว่าการอ่านหนังสือ
แต่ก็ยังดีกว่าการอ่านหนังสือมาก
เพราะการอ่านหนังสือมันได้แค่อ่าน
ยังไม่ได้เจอหรือสัมผัสบรรยากาศจริงๆเหมือนกับการไปเที่ยว
ผมกำลังบอกว่า
มันไม่ใช่เรื่องที่นำมาเปรียบเทียบราคาโดยใช้ตัวเลขทางคณิตศาสตร์
อารมณ์ ความต้องการ ณ ห้วงเวลานั้นต่างหาก
ที่กำหนดว่าคุณอยากทำอะไรถึงจะมีความสุขได้
ถึงแม้ว่าวิธีที่คุณต้องการในช่วงเวลานั้น มันเป็นไปไม่ได้
เพราะคุณ "ไม่มีเงิน" หรือ "มีเงินไม่พอ"
คุณเลือกเองได้ และวิธีการสร้างความสุขไม่ได้แค่มีวิธีเดียว
คุณอย่าทำให้มันตายตัวเด็ดขาด
มิเช่นนั้นความสุขของคุณจะมีต้นทุนเสมอ
ซึ่งถ้าสูงกว่ารายรับ แทนที่จะมีความสุข กลับมีความทุกข์แทน
จริงๆแล้ว
วิธีการสร้างความสุขแบบไม่เสียเงินหรือใช้เงินน้อย
เช่น เดินสวนสาธารณะแถวบ้าน อ่านหนังสือที่ห้องสมุด เล่นฟิตเนสที่แถวบ้าน
ก็อาจสามารถสร้างความสุขและตอบสนองความต้องการได้ไม่แพ้กัน
ความสุขไม่สุข ขึ้นอยู่กับตัวเราเป็นคนบอก
อย่าให้กระแสสังคมส่วนใหญ่มากำหนดตัวคุณ
ถ้าคุณอยากมีความสุขในต้นทุนที่แพง
คุณก็ต้องกำหนดเป้าหมายที่จะทำให้คุณมีรายได้มากกว่าต้นทุนหลายเท่าๆ
แต่ถ้าไม่ต่างกันมาก
ก็ประหยัดราคาของความสุข ก็เป็นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่หรอ?
การกู้เงิน เป็นหนี้เป็นสิน
ถ้าเห็นอนาคตว่ามีกำลังใช้หนี้หมดได้ ก็แล้วแต่คุณจะเสี่ยง
แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น
ก็อย่าไปกู้เงิน
ที่คิดว่าอยากมีความสุขในวิธีและแบบที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยเจอ
แต่ต้องแลกกับต้นทุนที่แสนแพง
จริงอยู่ที่คุณมีความสุข มันก็เป็นความสุขชั่วขณะ
ในยุคที่เศรษฐกิจกำลังไปในทิศทางที่ไม่ได้สวยงาม
ผมอยากให้คุณไตร่ตรองเพิ่มอีกนิด
ถึงต้นทุนของความสุขที่คุณต้องแลกมา
กับระดับรายได้ว่าเหมาะสมแล้วหรือยัง?
คุณวางแผนการเงิน การออมมากพอรัดกุมแล้วหรือไม่?
แค่คิดขึ้นนิดนึง
คุณจะได้ไม่ตกกับหลุมพรางที่ใครบางคนสร้างขึ้น
หรือตกเป็นเหยื่อทางการตลาดได้ง่ายเกินไป
อย่างน้อยคุณก็พร้อมที่จะรับความเสี่ยงและ
ความเสียหายกับการใช้เงินซื้อความสุขของคุณ
วินัยการใช้เงินคุณจะดีขึ้น
วิธีที่ง่ายที่สุด
นำตัวเลขรายได้ต่อเดือน หารเฉลี่ยให้เหลือต่อวัน
แล้วหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นออก
คุณจะเห็นตัวเลขที่คุณสามารถซื้อความสุขได้
หรือ
ถ้าคุณต้องใช้เงินซื้อความสุขอะไรบางอย่าง
คุณต้องทำงานถึงกี่วัน? ถึงจะได้ความสุขนั้นมา
ส่วนวิธีการเพิ่มรายได้
หลักการที่ง่ายที่สุด
ถามตัวเองว่า
วันนี้คุณสามารถแปลงความสามารถของคุณ
ออกมาในรูปตัวเงินได้มากพอเต็มที่ที่สุดแล้วหรือยัง
ถ้าไม่? คุณก็ต้องพัฒนาตัวเองและความสามารถให้มากกว่านี้
อยู่ในยุคที่มีอินเทอร์เน็ตเชื่อมกัน
ความรู้เฉพาะทางไม่ได้หายากเท่าแต่ก่อน
คุณฝึกฝนได้เลย
บทเรียนออนไลน์ Blog และบทความสาระดีๆ
ข้องเกี่ยวให้มันเป็นนิสัย
ท้ายสุดแล้วต้องลงมือทำด้วย
อย่ามัวแต่คิดหรือความพร้อมเพียงอย่างเดียว
โอกาสมันไม่ได้หาคุณบ่อยๆหรือง่ายนัก
--
พี (P)
Mar 28, 2015
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น