วันนี้ผมขอนำบทความที่น่าสนใจ เกี่ยวกับแนวโน้มของปีหน้าเกี่ยวกับความสำคัญของแวดวงศิลปะที่จะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคตมาฝากชาว Blog และท่านผู้อ่านกันครับ
---
ART IS THE FUTURE
นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์
อีกไม่นาน ศิลปะ จะเป็นหนึ่งในวงการ ที่คนทั่วไปอยากอยู่มากที่สุด เพราะเทคโนโลยีสารสนเทศจะแย่งงานมนุษย์ไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายแล้ว เหลือแต่งานที่คอมพิวเตอร์ยังไม่อาจแข่งขันกับสมองมนุษย์ได้ นั่นคือ งานที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ และถ้ามนุษย์ส่วนใหญ่ยังฝึกทักษะตัวเองให้เข้าสู่งานด้านศิลปะไม่ได้ ปัญหาการว่างงานจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในอนาคต อาชีพที่มีรายได้ดีน่าจะเป็น นักเขียนบทภาพยนตร์ นักแต่งเพลง นักเขียนนิยาย นักวาดการ์ตูน ครีเอทีฟ ฯลฯ อาชีพเหล่านี้จะเป็นที่ใฝ่ฝันของนักเรียนไม่แพ้ หมอ วิศวะ ผู้พิพากษา หรืออาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ใครมีลูกน่าจะส่งเสริมทักษะเหล่านี้ให้พวกเขาไว้ล่วงหน้าเลย
เวลานี้ อาชีพเหล่านี้ยังไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งที่ความต้องการในตลาดมีสูงมากแล้ว เป็นเพราะ คนที่ทำอาชีพเหล่านี้ ยังไม่สามารถ Capture Value ที่ตัวเองสร้างขึ้นมาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ Property Rights ยังแย่อยู่ ทำออกมาแล้วโดนเสพฟรีบ้าง โดนนายทุนเอาเปรียบบ้าง อินเตอร์เน็ตทำให้ทุกอย่างฟรีบ้าง ไรบ้าง แต่ถ้าถามว่า สังคมมีความต้องการผลงานของคนเหล่านี้มากแค่ไหน ก็ต้องตอบว่าสูงมากแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำได้ดีมาก ๆ แต่ทำแล้ว ยังเปลี่ยนเป็นเงินเข้ากระเป๋าตัวเองไม่ค่อยได้
แต่เชื่อว่าในอนาคต สถานการณ์ต้องเปลี่ยนไป เพราะถ้าไม่ reward คนเหล่านี้ ผลผลิตที่ได้ก็จะไม่เพียงพอต่อความต้องการเสพของคน ในที่สุดก็ต้องมีการปฏิรูป เพื่อให้คนที่ทำงานด้านนี้ได้ผลตอบแทนสูงขึ้น แต่จะช้าหรือเร็วแค่ไหนนั้น ผมไม่ทราบจริง ๆ รุ่นเราจะทันหรือเปล่าไม่รู้ แต่รุ่นลูกของเราน่าจะทันแน่ ๆ คล้ายกับสมัยก่อนที่อาชีพนักแสดงถูกมองว่า แค่เต้นกินรำกิน ได้เงินน้อย โดนเบี้ยวค่าตัว พระเอกอันดับหนึ่งของประเทศยังไม่จะกิน แต่สมัยนี้ กลายเป็นอาชีพที่ทำเงินมากมายมหาศาล ...ไปก่อนแล้ว
อาชีพความคิดสร้างสรรค์อื่น ๆ ก็น่าจะตามไปเหมือนกัน แต่ช้ากว่าหน่อย
เหตุผลอีกประการหนึ่งก็คือ เมื่อคนเรามีรายได้สูงขึ้นจนถึงระดับหนึ่ง ความต้องการเรื่องศิลปะจะเริ่มโผล่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
อย่างเวลานี้ ประเทศที่ร่ำรวยมาก ๆ แล้ว จะเห็นได้ชัดว่า วงการศิลปะพัฒนาไปมาก มีคนทำเป็นอาชีพได้เยอะแยะมากมาย แต่ประเทศกำลังพัฒนาจะยังมีน้อยอยู่ ต่อจากนี้ไป เมื่อระดับรายได้ของทุก ๆ ประเทศเข้ามาใกล้กัน ประเทศกำลังพัฒนาก็จะเริ่มสนใจศิลปะ ผู้คนจะเริ่มมีรสนิยมมากขึ้น กล้าจ่ายเงินซื้อไอเดียมากขึ้น ฯลฯ ไปตามลำดับขั้นความต้องการของ Maslow
เวลานี้ประเทศเกิดใหม่ยังอยู่ในช่วง Middle-income สิ่งที่คนชั้นกลางหมกมุ่นก็คือ ทำอย่างไรถึงจะรวยๆๆๆๆ พวกเขายังไม่สนใจศิลปะ วัฒนธรรมสุนทรียภาพเท่าไร แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อโลกพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีไปไกลกว่านี้ คนเราจะแทบไม่ต้องทำงานหนักอะไรแล้ว เพราะเทคโนโลยีจะทำให้เราหมด เวลาว่างจะเริ่มมากขึ้น คนจะเริ่มหันมาเสพสุนทรียภาพเพื่อฆ่าเวลามากขึ้น ซึ่งเมื่อนั้น...รายได้ก็สูงพอที่จะจ่ายได้พอดี ศิลปะแขนงต่าง ๆ อาจกลายเป็นจุดสนใจของสังคมแทนเรื่องทำมาหากินต่าง ๆ
ทัศนคติของคนทั่วไปเกี่ยวกับคนที่ทำอาชีพศิลปะจะแตกต่างจากเวลานี้มากทีเดียว
---
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น