วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558

ข้อคิดจากเรื่องเล่า: ความลับของช่างกุญแจ


       "ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงไหนเวลาใด ผู้ที่เตรียมพร้อมซึ่งจิตสำนึกในระดับสูงไว้ตลอดเวลาเท่านั้น จึงจะนับเป็นคนที่แท้จริง" --นิรนาม‬

       นับตั้งแต่กระแสความวุ่นวายพัดโหมกระหน่ำในแวดวงเทคโนโลยีอุตสาหกรรม พนักงานก็ถูกสั่งให้ลาหยุดพักผ่อนโดยไม่ได้รับเงินเดือน เพื่อนหลายคนซึ่งเคยเป็นเศรษฐีใหม่ในแวดวงนี้มานานหลายปี ต่างกลายเป็นยาจกใหม่ไปตามๆ กัน

       เดิมทีพวกเขาเหล่านี้ เคยยุ่งอยู่กับการลงทุนในตลาดหุ้น มาระยะนี้กลับมีเวลามาพูดคุยกันในสังคมออนไลน์อยู่เสมอ บ้างก็บ่นว่าตนขาดทุนรถเบนซ์ไปสองคัน บ้างก็ว่าถูกลดเงินเดือนเหลือเพียงหนึ่งในสามของที่เคยได้ ต่างรู้สึกว่าตนเองอยู่ในสภาพย่ำแย่

       มีเพียงคนเดียวที่บอกว่าตนได้กำไร เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เขามีเวลาว่างมากขึ้น ได้อยู่เป็นเพื่อนคุยกับแม่ผู้สูงวัย และช่วยภรรยาดูแลลูกๆ ช่วงเวลาหยุดพักพิเศษนี้ เสมือนเป็นของขวัญที่สวรรค์ประทานมาให้

       ...สมัยก่อนมีช่างกุญแจอยู่คนหนึ่ง ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องกุญแจอย่างหาตัวจับยาก ไม่ว่าจะไขหรือซ่อมกุญแจ เขาก็จะตั้งใจทำด้วยความรับผิดชอบ และเรียกเก็บเงินในราคาสมเหตุสมผล ทุกคนจึงเคารพนับถือเขา

       ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีคุณสมบัติหนึ่งที่หาได้ยากยิ่ง นั่นก็คือ ช่างกุญแจผู้นี้เป็นคนซื่อสัตย์มาก ทุกครั้งหลังจากช่วยไขหรือซ่อมกุญแจให้ผู้อื่นแล้ว เขาจะแจ้งชื่อและที่อยู่ของตนให้ลูกค้าทราบ ด้วยเหตุนี้เอง ผู้คนจึงเชื่อถือและไว้วางใจในตัวเขา

       ช่างกุญแจทำงานเช่นนี้อยู่เป็นเวลาหลายสิบปี เขาเริ่มแก่ตัวลงทุกวัน เพื่อไม่ให้ฝีมือด้านการช่างของตนต้องหายสาบสูญไป เขาจึงรับลูกศิษย์ไว้สองคน ทั้งสองต่างอายุยังน้อย ทว่าขยันหมั่นเพียรมาก ช่างกุญแจชราก็พยายามถ่ายทอดความรู้ให้อย่างเต็มที่

       เวลาผ่านไประยะหนึ่ง คนหนุ่มทั้งสองต่างก็เรียนรู้เทคนิควิธีไปไม่น้อย แต่ระหว่างชายหนุ่มทั้งสองนี้ สุดท้ายแล้วจะมีเพียงคนเดียวที่ได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชาสำคัญ

      ในที่สุดก็ถึงวันที่ช่างกุญแจจะเลือกผู้สืบทอด เขาเตรียมตู้นิรภัยไว้สองใบ ตั้งแยกไว้ในห้องสองห้อง จากนั้นเรียกลูกศิษย์ทั้งสองมาแล้วบอกว่า "พวกเจ้าสองคน ใครเปิดตู้นิรภัยได้เร็วที่สุดคนนั้นเป็นผู้ชนะ"

      ผลออกมาอย่างรวดเร็ว ศิษย์คนโตใช้เวลเพียงสิบนาทีก็เปิดตู้นิรภัยสำเร็จ ส่วนศิษย์คนรองใช้เวลามากกว่าถึงสองเท่า เมื่อผลออกมาเช่นนี้ ทุกคนต่างเข้าใจว่า ศิษย์คนโตต้องได้เป็นผู้สืบทอดอย่างแน่นอน ศิษย์คนโตเองก็รับการแสดงความยินดีจากทุกคนในนั้น

      เมื่อลูกศิษย์ทั้งสองออกมาพร้อมหน้ากัน ช่างกุญแจก็ถามพวกเขาว่า "พวกเจ้าต่างก็เปิดตู้นิรภัยแล้ว ถ้าเช่นนั้นมีใครรู้บ้างว่า ในตู้นิรภัยมีอะไร"

      พอศิษย์คนโตได้ยินก็รีบชิงตอบก่อน "อาจารย์ ในนั้นมีเงินอยู่มากมาย เป็นธนบัตรในละหนึ่งร้อยเหรียญทั้งนั้น มีอยู่เยอะแยะเลยทีเดียว"

      อาจารย์มองหน้าศิษย์คนรอง เขายกมือลูบหัว อ้ำอึ้งอยู่เป็นนาน แล้วจึงเอ่ยออกมาว่า "อาจารย์ ท่านเพียงบอกให้ผมเปิดตู้ ผมก็เปิดตู้อย่างเดียว ไม่ได้สนใจของที่อยู่ข้างในเลยครับ"

      เหนือความคาดหมาย หลังจากฟังคำตอบของศิษย์ทั้งสองแล้ว ช่างกุญแจก็ประกาศด้วยความปลาบปลื้มยินดีให้ศิษย์คนรองเป็นผู้สืบทอดของตนทันที

      เมื่อผลออกมาเช่นนี้ ทุกคนในที่นั้นต่างก็พากันงวยงง โดยเฉพาะศิษย์คนโตซึ่งทักท้วงเพราะไม่ยอมรับการตัดสินใจเช่นนั้นได้ ช่างกุญแจยิ้มบางๆ แล้วอธิบายว่า...

      "ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ต้องให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ โดยเฉพาะอาชีพช่างกุญแจ จะขาดความน่าเชื่อถือไว้วางใจไม่ได้อย่างเด็ดขาด ฉันรับลูกศิษย์ก็หวังว่าเขาจะสืบทอดฝีมือด้านการช่างไปจากฉันได้ แต่ต้องไม่นำไปใช้ในทางมิชอบ สิ่งสำคัญคือ ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด ต้องทำให้ได้ถึงขั้นว่าในใจมีแต่กุญแจเท่านั้น สำหรับเงินทองก็ต้องทำให้ได้ถึงระดับมองแต่ไม่เห็น ไม่เช่นนั้นสุดท้ายอาจนำภัยมาสู่ตัวได้"

       ทุกคนในที่นั้นต่างพยักหน้าด้วยความเลื่อมใส ช่างกุญแจชราตบไหล่ศิษย์คนโตเบาๆ แล้วบอกว่า "จำไว้! ในใจทุกคนล้วนมีกุญแจที่ไขไม่ออกอยู่ดอกหนึ่ง" ศิษย์คนโตก้มหน้าด้วยความอับอาย แล้วค่อยๆ หลบออกจากกลุ่มคนไป

       ศิษย์คนรองคอยติดตามอยู่ข้างกายช่างกุญแจชราตลอดเวลา ศึกษาเรียนรู้และทำงานต่อไป หลังจากช่างกุญแจชราถึงแก่กรรมเขาก็ยังยึดมั่นในหลักการทำงาน และปฏิบัติตัวตามที่อาจารย์สั่งสอนมาโดยตลอด เป็นแบบฉบับที่น่าเคารพนับถือของคนในหมู่บ้าน


เรื่องนี้กำลังบอกอะไรเราอยู่?

       ชีวิตเต็มไปด้วยสิ่งเย้ายวน ในใจคนก็เต็มไปด้วยความปรารถนา ทว่า คุณค่าของชีวิตนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ความปรารถนาจะเติมเต็มได้ ชีวิตที่ดำรงอยู่เพื่อแสวงหาทรัพย์สินเงินทอง มักล้มคว่ำได้ง่ายเพราะคลื่นลมพายุ

       ความล้มเหลวชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ได้หมายความว่า เราจะเป็นผู้แพ้ตลอดไป เพราะโชคอันยิ่งใหญ่กว่ายังรอคอยอยู่ข้างหน้า การหยุดพักผ่อนก็เพื่อจะเดินต่อไปให้ไกลยิ่งกว่าเดิม

       วางความพะวงเรื่องทรัพย์สินเงินทองในใจลงเสียเถิด ใส่กุญแจแห่งหลักการลงในหัวใจสักดอกหนึ่ง เราจะมองเห็นตัวเองและโลกนี้ได้ชัดขึ้น และแยกแยะได้อย่างถูกต้องว่าอะไรถูกอะไรผิด


Cr. สุขได้ถ้าวางเป็น - หนังสือ & โลกทรรศนะ - Facebook Page

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น