วันนี้ผมขอนำบทความส่วนหนึ่งจากหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า "ธรรมลีลา" ในหัวข้อเกี่ยวกับบริหารเวลา ซึ่งได้กล่าวถึง 10 เทคนิคจัดการเวลาในแต่ละวันให้ได้เกิดประโยชน์สูงสุด มาฝากชาว Blogger กัน เรื่องการบริหารเวลาควรเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญ
เนื่องจากทุกคนมีเวลาของแต่ละคน 24 ชั่วโมงต่อวัน เท่ากันทุกคน ซึ่งแต่ละคนสามารถจัดสรรเลือกใช้เวลาในการทำกิจกรรมต่างๆได้ตามบทบาทหน้าที่และความพอใจตามแต่ละบุคคล ทว่าความเป็นอิสระในจุดนี้นี่เอง ที่จะส่งผลให้แต่ละคนประสบความก้าวหน้าในชีวิตไม่เท่ากัน
ในส่วนต่อไปจะกล่าวถึงเทคนิคการจัดเวลาทั้ง 10 เทคนิค ซึ่งมีดังนี้
1. กำหนดเป้าหมายและทำให้สำเร็จ
เรื่องแรกที่ควรเข้าใจ คือ ไม่มีกฎตายตัวในการบริหารจัดการเวลา แต่การวางเป้าหมายและมุ่งมั่นทำให้สำเร็จนั้น จะช่วยได้มาก โดยเริ่มจากตั้งเป้าหมายระยะสั้นและยาวในสิ่งที่ฝันไว้ กำหนดรายละเอียดและเส้นตายที่ทำได้จริง การขีดเส้นตายเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะมันจะช่วยให้คุณเห็นจุดหมายปลายทางควาลมสำเร็จว่าไม่ได้อยู่ไกลเกินไป และควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้ด้วย
Read more: ตั้งและพิชิตเป้าหมายอย่างไร? ให้สำเร็จได้
2. จัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำ
ถ้าคุณหวังจะทำงานให้สำเร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ก็อย่าให้ความสำคัญของทุกเรื่องเท่าเทียมกัน จงเตรียมลิสต์งานที่ต้องทำให้เสร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จัดลำดับเรื่องด่วนและสำคัญอยู่บนสุด และตามด้วยเรื่องอื่นๆ
Read more: ใช้ To Do List อย่างไร? ให้มีประสิทธิภาพ
3. โฟกัสเฉพาะเรื่องที่ควบคุมได้
ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะร้องไห้คร่ำครวญในสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ เพราะคุณไม่มีทางห้ามดวงอาทิตย์ไม่ให้ลับขอบฟ้า หรือหยุดเวลาไว้ไม่ให้เดิน แต่คุณสามารถควบคุมสิ่งที่ทำหรือคิดได้ตลอดเวลาทั้งวัน ลองนึกถึงวันที่เจ้านายเรียกทุกคนมาบอกว่า ปีนี้ไม่มีการขึ้นเงินเดือน เนื่องจากโดนผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลก เชื่อแน่ว่า พนักงานทุกคนคงรู้สึกแย่ๆ แต่นั่นเป็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมของคุณหรือใครๆ ฉะนั้น แทนที่จะมานั่งเสียเวลาเป็นทุกข์ ควรเอาเวลามาคิดว่า “จะหารายได้เสริมจากไหน” ย่อมเป็นเรื่องที่ดีกว่า
4. รู้จักตัวเองและสภาพแวดล้อม
อาจฟังดูงงๆ แต่การจะทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุดในแต่ละวัน คุณต้องรู้จักตัวเองดีเสียก่อน ว่าช่วงเวลาไหนที่คุณกระฉับกระเฉง มีเรี่ยวแรง และตั้งใจทำงานมากที่สุด หรือช่วงไหนที่หมดแรงและไม่อยากทำงานเลย ลองค้นหาช่วงเวลาที่คุณทำงานได้ดีที่สุด และใช้เวลานั้นทำงานสำคัญๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลงานได้อย่างทันตาเห็น
5. ทำงานหรือกิจกรรมหลายอย่างไปพร้อมกัน
มีงานหรือกิจกรรมหลายอย่างที่สามารถทำได้ในเวลาเดียวกัน เช่น ถ้าต้องใช้เวลาเดินทางบนรถโดยสาร 1 ชม.จากบ้านไปที่ทำงาน อาจใช้เวลานั้นทบทวนรายงานที่ต้องเสนอในที่ประชุมตอนเช้า หรือฟังเพลงขณะอาบน้ำ ทานข้าวเย็นร่วมกับเพื่อนฝูง ฯลฯ ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดเวลาแล้ว ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายด้วย
6. มอบหมายงานให้คนอื่นทำแทน
คำแนะนำข้อนี้ มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนอื่นต้องเข้าใจเสียก่อนว่า คุณไม่สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเองได้ทุกเรื่อง จงให้เวลากับงานชิ้นสำคัญที่ต้องลงรายละเอียด และเรียนรู้ที่จะมอบหมายงานที่สำคัญน้อยกว่าให้คนอื่นทำแทน โดยต้องไตร่ตรองอย่างสุขุม รอบคอบ และด้วยความระมัดระวังเสียก่อน
7. ฝึกคิดบวกให้มากๆ
ในแต่ละวันที่ต้องทำงานร่วมกับคนมากมาย ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดความเครียด และหมกมุ่นอยู่กับความคิดด้านลบ เช่น กังวล โกรธ เกลียด เสียใจ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะกัดกร่อนทั้งเวลาและสุขภาพกายใจไปทีละน้อย แต่การฝึกคิดด้านดีหรือคิดบวก แล้วทำตามนั้น เป็นคุณสมบัติของคนที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงควรหันมาฝึกจิตให้โฟกัสสิ่งที่ต้องการและต้องทำให้สำเร็จจะดีกว่า ถ้าทำได้อย่างนี้จะช่วยให้ก้าวผ่านวันเวลาที่แสนจะยุ่งวุ่นวายได้อย่างมีความสุขและสำเร็จ
8. อย่าอดนอน
เมื่อเวลาจวนตัว ทำงานไม่สำเร็จ คนทั่วไปมักเลือกที่จะอดนอนเพื่อทำงานให้เสร็จตามกำหนด การทำเช่นนี้ถือเป็นหนึ่งในข้อผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เพราะเมื่อเอาเวลาที่ควรจะนอนพักผ่อน มาทำงาน คุณจะทำงานได้ไม่ดี เพราะสมองไม่ปลอดโปร่ง ยิ่งเป็นงานเกี่ยวกับตัวเลข ยิ่งมีโอกาสผิดพลาดสูง และยังมีผลต่อเนื่องไปถึงวันรุ่งขึ้นตลอดทั้งวัน หากใช้วิธีนี้บ่อยๆ ระวัง...สุขภาพจะย่ำแย่
9. อย่าผัดวันประกันพรุ่ง
การผัดวันประกันพรุ่ง ประเภทที่ว่า “รอไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยทำก็ได้” (ทั้งๆที่มีเวลาจะทำ) จะทำให้ทำงานนั้นๆไม่เสร็จทันกำหนด เพราะเมื่อพรุ่งนี้มาถึง ก็อาจมีงานอื่นๆที่สำคัญเข้ามา ลงท้ายคุณเองนั่นแหละจะเกิดความเครียด เพราะมองไปทางไหน อะไรก็ไม่เสร็จสักอย่าง
วิธีแก้นิสัยนี้คือ พึงระลึกไว้เสมอว่า ไม่มีใครสามารถ หมุนเวลากลับไปได้ จึงควรใช้เวลาอย่างชาญฉลาด ทำภารกิจต่างๆที่ต้องการจนสำเร็จ
10. หาเวลาพักผ่อนและทำสิ่งที่ชอบ
บางครั้ง วิธีที่ดีที่สุดในการบริหารเวลา คือ ไม่จัดการ เรื่องเวลาเลย ลองทำบางวันให้ปลอดจากภารกิจประจำวันที่น่าเบื่อหน่าย และใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองชอบ เช่น เดินเล่นในสวนสาธารณะ หาอาหารอร่อยๆทาน เข้าสปา หรือเข้าวัด ฟังธรรม นั่งสมาธิ ฯลฯ เรียกว่าทำอะไรก็ได้ที่ช่วยลดความตึงเครียดจากร่างกายและจิตใจ เพราะมันเป็นการชาร์ตพลังสมองให้ปลอดโปร่ง แจ่มใส เตรียมพร้อมรับวันใหม่ที่กำลังจะมาถึง
Cr. ธรรมลีลา เขียนโดย ประกายรุ้ง
บทความอื่นๆที่เกียวข้องในเรื่องการบริหารเวลา (Link)
บริหารเวลาอย่างไร? ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทำ prime time ให้เป็น prime
ทำอย่างไร? จึงมีเวลามากกว่าคนอื่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น